Page 248 -
P. 248

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว





               ไม่ว่าปลูกมากเท่าไรก็ขายได้หมด มีระบบให้บริการสีและขนส่งที่กระจายอยู่ทุกพื้นที่ ลักษณะตลาดเช่นนี้เป็น

               แรงจูงใจสําคัญที่ทําให้เกษตรกรเลือกปลูกข้าวโพด
                       การหาพืชทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้นทําได้ไม่ยาก แต่จะไม่สามารถแก้ไข

               ปัญหาการลุกลามของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้เลยหากไม่คํานึงถึงระบบตลาดและรูปแบบธุรกิจที่มารองรับพืช

               ทางเลือกต่างๆ ให้มีความเหมาะสมกับลักษณะและข้อจํากัดของเกษตรกรในพื้นที่ชัน ความท้าทายของการ
               แก้ปัญหาการปลูกพืชไร่เชิงเดี่ยวในพื้นที่ชันจึงอยู่ที่การพัฒนาระบบตลาดและรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสมของพืช

               ทางเลือกมากกว่าประเด็นผลตอบแทนของพืชทางเลือก
                       การศึกษาฉบับนี้แสดงถึงลักษณะเฉพาะของการเกษตรในพื้นที่สูงซึ่งเผชิญข้อจํากัดทั้งทางกายภาพ

               และทางสถาบัน ทําให้การพัฒนาเกษตรบนพื้นที่สูงมีความแตกต่างจากการเกษตรบนพื้นที่ราบอย่างชัดเจน

               โดยเฉพาะในประเด็นที่เกษตรกรมีอํานาจในการต่อรองต่ํา ทําให้เกษตรกรมีส่วนแบ่งจากมูลค่าของสินค้า
               ปลายทางน้อย การพัฒนาใดๆ ที่มุ่งเน้นเพียงเพิ่มมูลค่าให้สินค้าปลายทางไม่ได้หมายความว่าเกษตรกรต้นทาง

               จะได้รายได้เพิ่มมากขึ้น
                       นอกจากนี้ เนื่องจากการเกษตรบนพื้นที่สูงเป็นกิจกรรมที่เกิดบนพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวและมี

               ความสําคัญในเชิงนิเวศเป็นอย่างมาก การพัฒนารูปแบบธุรกิจการเกษตรในพื้นที่สูงที่เหมาะสมจะเป็น

               เครื่องมือสําคัญที่นําไปสู่การฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้อย่างประสบความสําเร็จ นโยบายการเกษตรในพื้นที่สูงจะมี
               ผลกระทบภายนอกต่อสังคม (Social benefits and costs) เข้ามาเกี่ยวข้อง การปล่อยให้การตัดสินใจต่างๆ

               เป็นไปตามกลไกตลาดไม่สามารถนําไปสู่ระดับสวัสดิการสังคมที่สูงสุดได้ ซึ่งเป็นผลมาจากความล้มเหลวของ
                         144
               กลไกตลาด (Market failures)  ดังนั้น จึงมีความสําคัญยิ่งที่ภาครัฐจะต้องกําหนดแผนและนโยบายที่
               เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการเกษตรและรูปแบบธุรกิจการเกษตรในพื้นที่สูงอย่างชัดเจน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมี

               ประสิทธิภาพและนําไปสู่ความยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
                       อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงแผนหรือยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในด้านการเกษตรพบว่า โดย

               ส่วนใหญ่แล้วให้ความสําคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต (เช่น การลดต้นทุนการผลิตผ่านมาตรการ

               ต่างๆ) และการสร้างมูลค่าเพิ่มในการขายสินค้า ซึ่งเป็นโจทย์ที่สําคัญของการเกษตรในพื้นที่ราบ แต่ยังขาด
               แผนหรือยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมกับการพัฒนาการเกษตรในพื้นที่สูง ซี่งมีลักษณะและข้อจํากัดต่างจาก

               การเกษตรในพื้นที่ราบเป็นอย่างมากดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
                       ผู้วิจัยจึงเสนอให้ภาครัฐมีนโยบายหรือแผนเฉพาะในการกํากับดูแลและพัฒนารูปแบบธุรกิจการเกษตร

               ในพื้นที่สูงที่ชัดเจน แยกต่างหากจากนโยบายการเกษตรในพื้นที่ราบทั่วไป โดยเฉพาะเป้าหมายในการเพิ่ม

               อํานาจต่อรองให้กับเกษตรกรซึ่งเป็นปัญหาหลักที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรในพื้นที่สูง ให้มีการกําหนดแผนระยะยาว
               ในด้านการตลาดและการผลักดันการรวมกลุ่มของเกษตรกร และการให้ความสําคัญกับกลไกที่จะทําให้




               144
                 ในพื้นที่สูง การตัดสินใจผลิตหรือบริการโดยธุรกิจหรือเกษตรกรมักไม่ได้รวมต้นทุนและผลประโยชน์ของสังคม ส่งผลให้
               นําไปสู่การตัดสินใจผลิตหรือบริการที่มากหรือน้อยเกินไป และราคาที่ปรากฎก็ไม่สามารถสะท้อนต้นทุนทางสังคมที่แท้จริง
               และก่อให้เกิดความล้มเหลวของตลาด  การตัดสินใจนี้ไม่สามารถสร้างระดับสวัสดิการสังคมที่สูงสุดได้

                                                           9-14
   243   244   245   246   247   248   249   250   251   252   253