Page 236 -
P. 236
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในการศึกษา ผู้วิจัยรวบรวมข้อมูลจากการทําวิจัยเชิงสํารวจผ่านการทําแบบสอบถามรายครัวเรือน
และการสัมภาษณ์เชิงลึกครอบคลุม 7 พื้นที่ในจังหวัดน่าน ประกอบด้วย 1) บ้านป่ากลาง อ. ปัว ซึ่งมีทั้ง
เกษตรกรที่แยกกันขายมะม่วงให้ตลาดทั่วไปในประเทศและที่รวมกลุ่มขายมะม่วงคุณภาพสูงให้ตลาด
ต่างประเทศ 2) บ้านสบเป็ด อ.ท่าวังผา ที่เกษตรกรปลูกมะม่วงและแยกกันขายให้ตลาดทั่วไปในประเทศ 3)
บ้านสันเจริญ อ.ท่าวังผา ที่มีทั้งเกษตรกรที่ปลูกและแปรรูปกาแฟขายผ่านกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและที่ขายเมล็ด
กาแฟให้กลุ่มย่อยต่างๆ ในหมู่บ้าน 4) บ้านมณีพฤกษ์ อ. ทุ่งช้าง ที่มีทั้งเกษตรกรที่ขายเมล็ดกาแฟให้พ่อค้ารับ
ซื้อทั่วไปและที่ขายให้พ่อค้าที่เน้นตลาดคุณภาพและให้ความสําคัญกับประเด็นสังคมและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ 5)
บ้านแม่จริม อ.แม่จริม ที่มีทั้งเกษตรกรที่ปลูกพืชผสมผสานภายใต้การสนับสนุนของโครงการขยายผลโครงการ
หลวงแล้วขายสินค้าผ่านการรวมกลุ่ม และเกษตรกรที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ภายใต้ระบบเกษตรพันธะสัญญาของ
บริษัทเอกชน 6) บ้านโป่งคํา อ.สันติสุข ที่เกษตรกรปลูกพืชผสมผสานภายใต้การสนับสนุนของโครงการขยาย
ผลฯ และขายสินค้าผ่านการรวมกลุ่ม 7) บ้านถ้ําเวียงแก อ.สองแคว ที่เกษตรกรปลูกพืชในโรงเรือนและ
รวมกลุ่มขายตรงให้ตลาดปลายทางภายใต้การสนับสนุนของโครงการขยายผลฯ พื้นที่เหล่านี้เป็นตัวแทนของ
กลุ่มชุมชนที่ต้องการเปลี่ยนวิถีชีวิตจากการพึ่งพาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หรือพืชไร่เชิงเดี่ยวอื่นๆ ที่ส่งผลเสียของต่อ
สิ่งแวดล้อมไปสู่ทางเลือกที่ดีกว่าโดยมีรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสมมารองรับและช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับ
ทางเลือกที่เกิดขึ้น
การศึกษาวิเคราะห์และเปรียบเทียบข้อมูลและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทําให้เห็นความ
หลากหลายของรูปแบบธุรกิจที่มาต่อยอดรูปแบบเกษตรกรรมที่แตกต่างกันไปตามลักษณะของพื้นที่ ถึงแม้
เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันจะเลือกระบบเกษตรกรรมเดียวกัน แต่อาจเลือกอยู่ในรูปแบบธุรกิจที่ต่างกันไป
และที่สําคัญคือการเห็นภาพวิวัฒนาการของรูปแบบธุรกิจจากรูปแบบหนึ่งไปเป็นอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อแก้ปัญหา
เฉพาะที่เกษตรกรในแต่ละพื้นที่ต้องเผชิญ ทั้งนี้ ในการศึกษาผู้วิจัยใช้การวิเคราะห์เชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ
โดยใช้เครื่องมือทางสถิติและเศรษฐมิติอย่างง่ายในการประเมินผลของตัวแปรชี้วัดความยั่งยืนและสามารถสรุป
ประเด็นจากผลการศึกษาและตอบโจทย์สําคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในพื้นที่สูงได้ดังต่อไปนี้
9.1.1 กับดักการซื้อขายแบบดั้งเดิมและปัญหาของเกษตรกรบนพื้นที่สูง
ปัญหาหลักของที่เกษตรกรในพื้นที่สูงจํานวนมากต้องเผชิญคือ ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ํา
เกษตรกรรายย่อยเป็นผู้รับภาระความเสี่ยงทั้งหมดจากความผันผวนของราคาตลาด บริษัทหยุดรับซื้อและภัย
ธรรมชาติ ปัญหาปลายทางเหล่านี้เป็นผลมาจาก การขาดอํานาจต่อรองของเกษตรกรที่อยู่ในระบบการซื้อขาย
แบบดั้งเดิมที่เกษตรกรแยกกันขายผลผลิตให้พ่อค้าคนกลางไม่ว่าจะมาในรูปของการมีสัญญาซื้อขายหรือไม่มี
สัญญาการซื้อขายหรือไม่ก็ตาม เกษตรกรที่เผชิญปัญหาเหล่านี้ซ้ําแล้วซ้ําเล่าต่างพยายามที่จะหาทางออกจาก
ปัญหาและพัฒนาอํานาจต่อรองของตนเองแต่ก็มีจํานวนไม่มากนักที่ประสบความสําเร็จ ส่วนใหญ่ยังติดอยู่ใน
กับดักของการซื้อขายแบบดั้งเดิมที่ไม่ให้อํานาจต่อรองกับเกษตรกร จากการศึกษาพบว่า เหตุผลตั้งต้นที่นําให้
เกษตรกรจํานวนมากเข้าไปติดกับดักการซื้อขายแบบดั้งเดิมมาจากข้อจํากัดที่เกษตรกรในพื้นที่สูงเผชิญ โดย
แบ่งออกได้เป็น ข้อจํากัดเชิงพื้นที่ เช่น ไม่มีระบบชลประทานที่ทั่วถึง ห่างไกลจากตลาด ข้อจํากัดของ
เกษตรกร เช่น เกษตรกรส่วนใหญ่ขาดความรู้ด้านทางเลือกพืชที่เหมาะสม ขาดเงินทุน ขาดความรู้ในการ
9-2