Page 232 -
P. 232
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในชุมชนผ่านการส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกร ด้วยว่ากลุ่มจัดเป็นโครงสร้างจําเป็นพื้นฐานทั้งในเรื่องการสร้าง
ผลตอบแทนให้สูงพอ ลดความเสี่ยง และสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน และเข้าไปแก้ปัญหาพฤติกรรมเกษตรกร
ที่อาจแย่งกันขายสินค้าในบางช่วงฤดูกาล และยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เกษตรกรมีทางเลือกของรูปแบบธุรกิจ
มากขึ้น หน่วยงานต่างๆ จะเข้ามามีส่วนร่วมและบทบาทในการพัฒนารูปแบบธุรกิจจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง
เข้าใจพลวัตการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจในชุมชน ความต้องการของชุมชน ศักยภาพที่ชุมชนมีอยู่เดิม และ
องค์ประกอบที่จําเป็นในการสร้างรูปแบบธุรกิจ เพื่อให้การพัฒนารูปแบบธุรกิจเป็นไปอย่างเหมาะสมและเกิด
ประโยชน์กับเกษตรกรและชุมชน
1) รูปแบบพันธะสัญญา
ในกรณีที่ชุมชนจะพัฒนาไปในทิศทางของเกษตรพันธะสัญญาโดยไม่ต้องการผ่านการรวมกลุ่ม ซึ่ง
อาจจะเป็นเพราะเกษตรกรหรือกลุ่มยังไม่มีความเข้มแข็ง หรือการสนับสนุนของภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ ยัง
ไม่เพียงพอที่จะสร้างความเข้มแข็งในการสร้างกลุ่มได้ ในกรณีนี้ ภาครัฐหรือหน่วยงานต่างๆ อาจจะสนับสนุน
การจับคู่ทําสัญญาระหว่างเกษตรกรและธุรกิจ เจ้าของธุรกิจจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก
และได้รับประโยชน์ชัดเจนจากการเป็นผู้ขายสินค้าในตลาดปลายทาง อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการกํากับดูแลที่ดี
เกษตรกรจะยังประสบปัญหาอํานาจต่อรอง ความเสี่ยงของตลาดและผู้รับซื้อจากความไม่เท่าเทียมของสัญญา
มีการใช้สารเคมีมาก ขาดเงื่อนไขทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ภาครัฐควรมีบทบาทในการช่วยจับคู่และการกํากับ
ดูแลการทําสัญญาให้เกิดความเป็นธรรมกับเกษตรกร และสร้างเงื่อนไขทางสังคมและสิ่งแวดล้อมกํากับ
พฤติกรรม ในขณะที่ชุมชนเองอาจมีบทบาทในการกําหนดเกณฑ์ลักษณะธุรกิจการเกษตรที่อนุญาตให้ลงทุนใน
พื้นที่ได้ผ่านข้อตกลงหรือบัญญัติท้องถิ่น
2) รูปแบบการรวมกลุ่มเพื่อขาย
ในกรณีที่เกษตรกรยังไม่สามารถรวมกลุ่มกันเองได้ ความช่วยเหลือจากภายนอกในการสร้าง
องค์ประกอบต่างๆ ที่เหมาะสมมีความสําคัญมากในการช่วยสร้างกลุ่มเกษตรกร ความพยายามของเกษตรกร
กันเองในการรวมกลุ่มมักประสบความล้มเหลวเนื่องจากเกษตรกรมักแยกขายผลผลิตในช่วงก่อนสินค้าเน่าเสีย
หรือก่อนราคาตกหรือในช่วงที่พ่อค้าเพิ่มราคารับซื้อขึ้นเล็กน้อย แม้ในกรณีที่เกษตรกรสามารถรวมกลุ่มได้แล้ว
และสามารถรวบรวมปริมาณผลผลิตให้ได้มากพอที่จะช่วยเปิดตลาดหรือเพิ่มโอกาสการขาย แต่กลุ่มอาจจะยัง
ไม่มีบทบาทมากนักในด้านการต่อรองราคา เกษตรกรยังคงรับความเสี่ยงจากการผันผวนทางราคาและตลาด
ดังนั้น ภาครัฐ องค์กรภายนอก หรือภาคเอกชนจึงสามารถเข้ามามีบทบาทได้ตั้งแต่ในขั้นการสร้างกลุ่มไปจนถึง
การเพิ่มบทบาทของกลุ่มในระยะยาว
ตัวอย่างเช่น ในพื้นที่บ้านแม่จริม บ้านโป่งคํา และบ้านถ้ําเวียงแกที่เกษตรกรยึดแนวทางเกษตร
ผสมผสาน แต่ละรายผลิตสินค้าจํานวนไม่มากนักและต้องพึ่งกลุ่มในการเพิ่มผลผลิตเพื่อดึงดูดให้พ่อค้ามารับซื้อ
โครงการฯ มีบทบาทสําคัญในการผลักดันการสร้างกลุ่ม วางแผนการผลิตให้เกษตรกรในกลุ่ม ช่วยในการ
รวบรวมสินค้า ติดต่อตลาด เชื่อมโยงข้อมูลตลาดสู่กลุ่ม และประสานงานกับผู้นํากลุ่มเกษตรกร โครงการฯ ใช้
การอุดหนุนปัจจัยการผลิตผ่านกลุ่มเกษตรกรถือเป็นเครื่องมือจูงใจอย่างหนึ่งให้เกษตรกรรวมกลุ่ม
8-22