Page 175 -
P. 175
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รวมกลุ่มนี้อาจจะเกิดได้ในหลายรูปแบบ เช่น วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ หรือการรวมกลุ่มภายใต้การสนับสนุน
ขององค์กรภายนอก เช่น การดําเนินงานของโครงการขยายผลโครงการหลวงภายใต้การสนับสนุนของ
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง
การรวมกลุ่มเพื่อขายผลผลิตนี้เกษตรกรจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการมีอํานาจการต่อรองในการ
ขายผลผลิตเพิ่มขึ้น ประโยชน์ในการหาตลาดหรือติดต่อพ่อค้าให้เข้ามารับซื้อเนื่องจากผลผลิตที่ได้ของกลุ่มจะ
มีปริมาณมากพอที่จะให้พ่อค้าเข้ามารับซื้อ การหลีกเลี่ยงการแข่งขันในการขายระหว่างเกษตรกรด้วยกันเอง
และในบางกรณีเกษตรกรจะได้รับประโยชน์ทางอื่นจากการรวมกลุ่มด้วย เช่น การร่วมกันซื้อปัจจัยการผลิต
อาจจะทําให้ซื้อได้ในราคาที่ถูกลง การลดต้นทุนการขนส่งที่เกิดจากการซื้อปัจจัยการผลิตหรือขายผลผลิต เป็น
ต้น
นอกจากผลได้ข้างต้นแล้ว เกษตรกรแต่ละรายยังไม่ต้องมีผลผลิตจํานวนมาก เช่น เกษตรกรที่ทํา
เกษตรผสมผสานมักจะเผชิญกับปัญหาที่ตนเองมีผลผลิตพืชแต่ละชนิดไม่มากนัก ทําให้ติดต่อพ่อค้าให้เข้ามารับ
ซื้อผลผลิตได้ยาก (โดยเฉพาะในกรณีเกษตรกรในพื้นที่สูงหรือห่างไกล) ถ้ามีการรวมกลุ่ม เกษตรกรที่ทําเกษตร
ผสมผสานสามารถขายผลผลิตของตนเองได้แม้จะมีปริมาณไม่มาก การรวมกลุ่มจึงมีความจําเป็นและมีบทบาท
สําคัญในการส่งเสริมการเกษตรผสมผสาน นอกจากนี้ การรวมกลุ่มยังช่วยในเรื่องการรับความช่วยเหลือจาก
ภาครัฐหรือองค์กรภายนอกอื่นๆ และสามารถรับความช่วยเหลือได้หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น เช่น การ
สนับสนุนเพื่อลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากกลุ่มมีผู้บริหารจัดการและมีระบบจัดสรรความช่วยเหลือนั้นๆ ให้ไป
ถึงสมาชิกแต่ละราย เกษตรกรในกลุ่มจะเริ่มมีการแบ่งปันหรือพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกัน เช่น การแก้ปัญหาที่
เกิดการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว และการขนส่ง การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการ การลดต้นทุน
เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการรวมกลุ่มเพื่อขายผลผลิตจะช่วยแก้ปัญหาบางด้านดังที่กล่าวมาข้างต้น แต่ก็
ยังคงมีข้อจํากัดหลายประการ ประเด็นปัญหาสําคัญที่พบในพื้นที่คือ แม้ว่าจะมีการรวมกลุ่มเพื่อขายผลผลิต
แต่เมื่อผลผลิตทางการเกษตรยังคงมีลักษณะสําคัญคือ เป็นสินค้าโดยทั่วไปที่ไม่ได้แตกต่างจากผลผลิตในพื้นที่
อื่นๆ มีระยะเวลาเก็บรักษาสั้น อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทําให้มีพ่อค้าเข้าไปซื้อน้อย จึงทําให้กลุ่มของเกษตรกรมี
อํานาจการต่อรองต่ําอยู่ (แม้ว่าจะสูงกว่าในกรณีที่แยกกันขาย เนื่องจากลดปัญหาการแข่งกันขายระหว่าง
เกษตรกรด้วยกันเอง และอาจจะเพิ่มจํานวนพ่อค้าขึ้นได้บ้างจากการที่ผลผลิตมีปริมาณมากขึ้น) พ่อค้าที่มารับ
ซื้อยังมีอํานาจในการกําหนดราคามากกว่าเกษตรกร รวมทั้งเกษตรกรยังคงเป็นผู้รับความเสี่ยงทั้งจากราคาที่มี
ความผันผวนและความเสี่ยงของปริมาณผลผลิตที่ผลิตได้ในแต่ละช่วง ทั้งนี้ มักจะพบว่าเกษตรกรที่อยู่ในกลุ่ม
ขายผลผลิตจะมีการปลูกพืชอื่นด้วยเพื่อเพิ่มรายได้และกระจายความเสี่ยง เนื่องจากกลไกการรวมกลุ่มเพื่อขาย
ผลผลิตจะยังไม่สามารถเพิ่มราคาขายและลดความเสี่ยงได้มากนัก
ในส่วนของการบริหารจัดการกลุ่มพบว่า ในบางพื้นที่เกษตรกรไม่ทําตามข้อตกลงเกี่ยวกับการขายของ
กลุ่มทําให้การรวมกลุ่มขาดความแข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่สินค้าเน่าเสียได้ง่าย ผลผลิตมีช่วงเวลา
เหมาะสมกับการขายที่ค่อนข้างจํากัด เกษตรกรที่กังวลเรื่องราคามากอาจรีบขายก่อน หรือพ่อค้าบางส่วน
6-35