Page 174 -
P. 174
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
6.3 เปรียบเทียบข้อดีและข้อจํากัดของรูปแบบธุรกิจการเกษตร
6.3.1 การทําเกษตรพันธะสัญญาหรือสัญญาระหว่างเกษตรกรรายบุคคลกับพ่อค้าหรือผู้ผลิต
โดยตรง
เกษตรกรในบางพื้นที่มีการทําเกษตรแบบพันธะสัญญากับพ่อค้าหรือบริษัทโดยตรงเพื่อพยายามแก้ไข
ปัญหาความผันผวนของราคาและปัญหาในการหาตลาดเพื่อขายผลผลิต เช่น เกษตรกรบางส่วนในบ้านแม่จริม
มีการทําสัญญากับบริษัทในการปลูกแตงกวา แตงโม และมะระเพื่อขายเมล็ดพันธุ์ โดยมีเอกสารกํากับไว้ว่า
เกษตรกรจะต้องขายผลผลิตกลับให้กับบริษัทที่ปริมาณเท่าไรและได้ราคาเท่าไร ซึ่งในกรณีนี้เกษตรกรจะ
เปรียบเสมือนเป็นลูกจ้างทํางานเกษตรประณีต โดยบริษัทจะให้เกษตรกรกู้ปัจจัยการผลิตมาก่อน แล้ว
เกษตรกรจะจ่ายคืนหลังจากได้ผลผลิต
ลักษณะของรูปแบบธุรกิจนี้มักจะเกิดขึ้นได้เฉพาะในกรณีที่เกษตรกรจะต้องดูแลผลผลิตอย่างเข้มข้น
อาจจะต้องใช้ทักษะในการทําการเกษตรที่สูงกว่าพืชทั่วไป และเป็นผลผลิตที่ต้องการขั้นตอนในการปลูกและ
การดูแลเป็นพิเศษแตกต่างจากพืชทั่วไป (เนื่องจากหากเป็นพืชทั่วไปแล้ว พ่อค้าหรือบริษัทก็สามารถหาผลผลิต
จากที่ใดก็ได้) เกษตรกรมักจะเป็นกลุ่มที่มีที่ดินทํากินหรือลักษณะพื้นที่ตามความต้องการของบริษัทที่มาว่าจ้าง
เช่น มีที่ดินติดถนนหลัก เพื่อให้ง่ายและสะดวกต่อการเดินทางมาตรวจแปลงปลูกของเจ้าหน้าที่บริษัท
ข้อดีของระบบดังกล่าวคือ ช่วยลดความเสี่ยงด้านราคาให้กับเกษตรกร เกษตรกรไม่ต้องเผชิญความ
กดดันในการแย่งกันขายผลผลิตในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว นอกจากนี้ โดยส่วนใหญ่ยังพบว่าเกษตรกรจะได้รับการ
อบรม ได้รับองค์ความรู้จากบริษัทและการดูแลเอาใจใส่ช่วยเหลือในการแก้ปัญหาจากบริษัทคู่สัญญา
อย่างไรก็ตาม ระบบธุรกิจดังกล่าวก็มีข้อจํากัดในทางปฏิบัติที่พบได้ในพื้นที่ แม้ว่าเกษตรกรจะสามารถ
แก้ปัญหาความผันผวนและความเสี่ยงด้านราคา แต่เกษตรกรก็ยังประสบปัญหาขาดอํานาจต่อรองกับบริษัท
หรือพ่อค้า เนื่องจากเกษตรกรมีสถานะเหมือนเป็นเพียงลูกจ้างของบริษัท บริษัทสามารถเลือกพื้นที่ เกษตรกร
และการกําหนดราคาได้ นอกจากนี้ เกษตรกรก็ยังประสบปัญหาความผันผวนด้านผลผลิต เนื่องจากหากมี
เหตุการณ์ที่ทําให้กระบวนการผลิตมีปัญหา เช่น เมล็ดพันธุ์ที่ได้มาจากบริษัทเสื่อมคุณภาพ ปลูกไม่ขึ้น
เกษตรกรจะไม่ได้รับชดเชยค่าเสียหาย เนื่องจากไม่มีสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร ปัญหาที่พบมากอีกประเด็น
หนึ่งในกรณีการทําเกษตรพันธะสัญญานี้คือส่วนใหญ่เป็นพืชที่ต้องใช้สารเคมีมาก โดยปริมาณการใช้สารเคมีนี้
จะขึ้นอยู่กับข้อกําหนดของบริษัท บริษัทมักเป็นผู้จัดหาปัจจัยการผลิตให้เกษตรกร โดยจะหักต้นทุนปัจจัย
เหล่านี้จากเกษตรกรหลังจากที่เกษตรกรขายผลผลิตให้บริษัทแล้ว
ลักษณะการทําสัญญาเป็นรายบุคคลนี้ ไม่มีกลไกที่ทําให้เกษตรกรมีการแบ่งปันหรือพัฒนาองค์ความรู้
ร่วมกันระหว่างเกษตรกรในชุมชน เนื่องจากไม่มีความจําเป็นต้องพึ่งพาหรือพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกัน
เกษตรกรแต่ละรายจะปรึกษาตัวแทนจากบริษัทที่เข้ามาดูแลเป็นหลัก และมีช่องทางรับความช่วยเหลือจาก
ภาครัฐหรือองค์กรอื่นอย่างจํากัดและทําได้ยาก เนื่องจากเป็นการดําเนินงานรายบุคคลแยกกันไป
6.3.2 การรวมกลุ่มเพื่อขายผลผลิต
รูปแบบธุรกิจที่ได้รับการพัฒนาและดําเนินงานในหลายพื้นที่จะอยู่ในรูปแบบของการรวมกลุ่มระหว่าง
เกษตรกรในพื้นที่ โดยในขั้นต้นของการรวมกลุ่มคือการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อขายผลผลิตของตนเอง โดยการ
6-34