Page 174 -
P. 174

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี






                                                           บทที่ 9


                                                  ขนมหวานจับใจอย่างไทย



                                         สักวาขนมหวาน  หวานจับใจ     หวานอย่างไทย ใคร่ค้นหา

                                 บรรพบุรุษ  เสกสรรปั้นแต่งมา         โอ้นวลน้องจ๋า  ข้าขอชื่นชม

                                 แต่ละขนม  คมทางความคิด              ช่างประดิษฐ์พินิจวิจิตรผสม
                                 ขนมเสริมศักดิ์ศรีวิถีไทยให้ได้ยล    พ้นความยากไร้ได้ท ากิน ทุกถิ่นฐานเอย

                                                                                                   สุรชัย  จิวเจริญสกุล: ผู้แต่ง


                         ประวัติและความเป็นมาของขนมไทย



                         วันดี ณ สงขลา (2527) ขวัญใจ เอมใจ (2540)  จริยา เดชกุญชร (2549) และรัมภา  ศิริวงศ์ (2552)

                   กล่าวถึงวัฒนธรรมขนมไทยมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรในท านองเดียวกัน คือ ท้าวทองกีบม้า หรือ
                   “มารี กีมาร์” ภรรยาของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ผู้เป็นกงสุลประจ าประเทศไทยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์

                   มหาราช  มีเชื้อชาติญี่ปุ่นสัญชาติโปรตุเกส ได้ริเริ่มการท าขนมไทยประเภททองหยิบ  ทองหยอดและ

                   ฝอยทอง  ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงนิพนธ์
                   กาพย์ห่อโคลงเห่เรือชมเครื่องคาวหวาน ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการพิมพ์ต าราอาหารและขนมไทย  ออก

                   เผยแพร่ คือ แม่ครัวหัวป่าก์ ที่ประพันธ์โดยท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ (2554)   จึงนับได้ว่า อาหารไทย

                   และขนมไทยมีประวัติความเป็นมาที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ยิ่งนัก


                          “ขนมไทย” ในความหมายมิได้หมายถึงของหวานที่เสิร์ฟหลังจากรับประทานอาหารคาวเท่านั้น
                   แต่ขนมของไทยยังหมายถึง “ของว่าง” หรือ อาหารว่าง  ขนมมงคล  ขนมที่ใช้ในพิธีกรรม  หรือรวมถึง

                   ขนมที่เป็นของฝาก จากประวัติศาสตร์และพัฒนาการอาหารไทย พบว่า   มีการเล่าขานและบรรจุให้

                   ลูกหลานไทยได้เรียนรู้ไว้หลายแห่ง เช่น กาพย์เห่ชมเครื่องคาว -หวาน พระราชนิพนธ์ โดย รัชกาลที่ ๒

                   (กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2528) ดังต่อไปนี้

                                                สังขยาหน้าไข่คุ้น เคยมี
                                                                แกมกับข้าวเหนียวสี โศกย้อม

                                                                เป็นนัยน าวาที สมรแม่ มาแม

                                                                แถลงว่าโศกเสมอพร้อม เพียบแอ้อกอร ๚
   169   170   171   172   173   174   175   176   177   178   179