Page 137 -
P. 137
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การจัดการเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร: กรณีศึกษา
133
จากการเปรียบเทียบคะแนนความชอบเฉลี่ยในแต่ละปัจจัยของผลิตภัณฑ์ต้นแบบกับผลิตภัณฑ์คู่แข่งทั้ง
2 ตราสินค้าที่ก าหนดขึ้น พบว่า 12 ปัจจัย ได้แก่ คุณค่าทางโภชนาการที่ได้รับด้านปริมาณไขมัน ปริมาณ
แคลเซียม ปริมาณวิตามินรวม ปริมาณเส้นใยอาหาร ปริมาณน้ าตาล คุณค่าทางโภชนาการโดยรวม ปริมาณ
พลังงานที่ได้รับ กลิ่นรสตามธรรมชาติ สีของเครื่องดื่ม ระดับความหวาน สามารถเคี้ยวได้ และลักษณะข้นหนืด
ภายในปากของผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบมีค่าคะแนนความชอบเฉลี่ยน้อยกว่าผลิตภัณฑ์คู่แข่ง แสดงว่าปัจจัย
เหล่านี้ของผลิตภัณฑ์ต้นแบบมีลักษณะด้อยกว่าผลิตภัณฑ์คู่แข่ง โดยพิจารณาจากค่าอัตราส่วนการพัฒนา
(Improvement ratio) ซึ่งค านวณจากอัตราส่วนระหว่างค่าเป้าหมายในการพัฒนากับระดับคะแนนของผลิตภัณฑ์
ต้นแบบ ปัจจัยเหล่านี้มีค่ามากกว่า 1 แสดงว่าผลิตภัณฑ์ต้นแบบมีลักษณะที่ด้อยกว่าผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง ควรท า
การปรับปรุงปัจจัยเหล่านี้ให้มีคุณลักษณะที่เทียบเท่าหรือดีกว่าค่าเป้าหมายหรือคู่แข่งต่อไป โดยท าการปรับปรุง
ตามค่าเป้าหมายพัฒนาเพื่อการพัฒนา (Planned level) ซึ่งได้จากการก าหนดค่าเป้าหมายจากปัจจัยต่างๆ ของ
ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (A) หรือผลิตภัณฑ์คู่แข่ง 2 ตรา (B และ C) ผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งที่มีระดับค่าคะแนน
ความชอบเฉลี่ยสูงสุดที่ผู้บริโภคให้ ซึ่งพบว่า ส่วนใหญ่ค่าเป้าหมายจะถูกก าหนดจากผลิตภัณฑ์เป้าหมายเพื่อการ
พัฒนา คือ ผลิตภัณฑ์ B เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้บริโภคให้คะแนนความชอบสูงสุดในแต่ละปัจจัยกับผลิตภัณฑ์นี้
แสดงถึงผลิตภัณฑ์คู่แข่งนี้มีลักษณะเด่นกว่าผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ต้นแบบจึงควรได้รับการปรับปรุง
และพัฒนาปัจจัยนั้นที่ด้อยกว่าให้เทียบเท่าหรือดีกว่าผลิตภัณฑ์คู่แข่งนี้ต่อไป
ส่วนปัจจัยของผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่มีค่าคะแนนความชอบเฉลี่ยของผู้บริโภคมากกว่าผลิตภัณฑ์คู่แข่ง คือ
ปัจจัยด้านราคา และปริมาณโปรตีน แสดงว่าปัจจัยทั้ง 2 ของผลิตภัณฑ์ต้นแบบมีลักษณะที่เด่นกว่าผลิตภัณฑ์
คู่แข่งแล้ว ดังนั้นอาจไม่จ าเป็นต้องพิจารณาปรับปรุงหรือพัฒนาปัจจัยทั้ง 2 นี้อีก หรือในอนาคตอาจพิจารณา
พัฒนาและปรับปรุงปัจจัยทั้ง 2 นี้ให้ดียิ่งขึ้นตามข้อจ ากัดที่มีต่อไปได้ ส่วนปัจจัยที่จะพิจารณาพัฒนาต่อไป ได้แก่
ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ให้ความรู้สึกอิ่มนาน ความง่ายในการชง และอายุผลิตภัณฑ์ ซึ่งถ้าฝ่ายพัฒนาเชิงเทคนิค
อาจเห็นควรพัฒนาผลิตภัณฑ์ในปัจจัยนี้เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคต่อไป เช่น พิจารณาการ
เพิ่มคุณสมบัติความง่ายในการชงของเครื่องดื่มธัญญาหารส าเร็จรูป และเพิ่มคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ให้
ความรู้สึกอิ่มนานหลังบริโภค ซึ่งมีความเป็นไปได้ในด้านเทคโนโลยีที่ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์อาจพัฒนาเชิง
นวัตกรรมเสริมประเด็นการพัฒนาด้านดังกล่าวเข้าไปได้ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับ
ผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้นและท าให้ผลิตภัณฑ์ต้นแบบมีลักษณะที่เด่นกว่าคู่แข่งมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยดังกล่าวมีผล
ต่อความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ต้นแบบด้วยเช่นกัน จากส่วนหลังค่าความสัมพันธ์ระหว่าง
ข้อก าหนดทางเทคนิคท าให้ทราบถึงความสัมพันธ์ของข้อก าหนดแต่ละรายการ และข้อจ ากัดในการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ ซึ่งทีมพัฒนาจะต้องใช้ดุลยพินิจพิจารณาว่าข้อก าหนดทางเทคนิคใดมีความส าคัญหรือส่งผลต่อคุณภาพ
ของผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้างความพึงพอใจแก่ผู้บริโภคได้มากที่สุด ทีมพัฒนาก็ควรพิจารณาให้ความส าคัญต่อ
ข้อก าหนดทางเทคนิคนั้นก่อนหรือพิจารณาจากข้อจ ากัดทางด้านอื่นๆ และต้องร่วมหาทางปรับปรุงแก้ไข ทีม
พัฒนาควรควบคุมตามค่าเป้าหมายและทิศทางเป้าหมายของข้อก าหนดทางเทคนิค ซึ่งค่าเป้าหมายและทิศทางค่า
เป้าหมายดังแสดงในตารางที่ 3
ภาควิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์