Page 33 -
P. 33

ิ
                                              ์
                               ื
                                                             ิ
                                                                             ั
                                                                                     ุ
                โครงการหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรตสมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร                 ี
                                           ิ
                                  ิ
                                                                                                           27

                                                                       ี
                                                                           :
                                                                             ื
                                  ี
                             ั
                         Q
                                        ั
                                          :
                                                                                                      :
                                                                                                ิ
               สถานการณทางสงคมท่ยุEงยากซบซอนควรจะสามารถนำความรู:ในทฤษฎไปใชเพ่อเปนแนวทางการปฏบตหรือแกไขปญหา
                                                                                                         i
                                                                                               ั
                                                                                              ิ
                                                                                U
               ได: เกณฑQประเมินข:อนี้สอดคล:องกับที่ Kurt Lewin อธิบายวEาไมEมีสิ่งใดที่ให:ประโยชนQในการปฏิบัติได:เทEากับทฤษฎีที่ดี

                       6.  การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research)

                          การหาความรู:ด:วยวิธีวิทยาศาสตรQ ซึ่งเปUนการวิจัยเชิงปริมาณให:ความสำคัญกับ “ตัวเลข” ในการเกบ
                                                                                                            ็
               รวบรวมหลักฐานเพื่อสนับสนุนทฤษฎี และมักใช: “การเปรียบเทียบความแตกตEาง” (Comparison of differences)
               ระหวEางกลุEมหรือตัวแปรที่ทดลอง เนื่องจากนักวิจัยเชิงวัตถุวิสัยมีเปาหมายในการสะท:อนความเปUนจริง ใช:การวัดและ
                                                                     ©
               รายงานสิ่งที่ค:นพบด:วยตัวเลขมากกวEาที่จะเปUนภาษาหรือคำพูดที่เปóดตEอการตีความ David Hume นักปรัชญาชาวสก†อต
               แลนดQย้ำวEาการวิจัยเชิงปริมาณมีความเหนือกวEาการวิจัยเชิงคุณภาพ ตัวเลขมีความนEาเชื่อถือมากกวEาคำพด นักทฤษฎีเชง ิ
                                                                                                 ู
               วัตถุวิสัยใช:การทดลอง (Experiments) และการสำรวจ (Surveys) ในการทดสอบความแมEนยำในการทำนายของทฤษฎี
                          การทดลอง เปUนการวิจัยภายใต:ข:อสันนิษฐานวEาพฤติกรรมของมนุษยQไมEได:เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ผู:ทดลอง
                                                                                                            ุ
               พยายามสร:างความสัมพันธQเชิงสาเหตุและผลโดยการทดลองกับปiจจัยหนึ่ง (ตัวแปรอิสระ) ในสถานการณQที่มีการควบคม
                                                                                 ั
                                                                  ี
                                              ึ
                                                                        ู
                                                 ั
                                        i
                    ึ
                                 ี
               เพ่อศกษาผลกระทบท่มตออีกปจจัยหน่ง (ตวแปรตาม) เชEน สารท่ใช:จุดจงใจความกลว (Fear appeal) ทำให:มีความตั้งใจ
                 ื
                                  ี
                                   E
               เลิกสูบบุหรี่หรือไมE ผู:วิจัยจัดการทดลองโดยเปรียบเทียบระดับความตั้งใจที่จะเลิกสูบบุหรี่ของผู:รับสารที่ได:เปóดรับสารที่ใช :
               จุดจูงใจความกลัวกับผู:รับสารที่ได:เปóดรับสารที่ใช:จุดจูงใจอื่น การวิจัยเชิงทดลองจะทำให:ได:ทราบประสิทธิผลของการ
               สื่อสารในรูปแบบตEาง ๆ
                                                                               :
                                                                                                       ิ
                                                                                              ู
                                                                                                    ั
                                                                                           :
                                                                         ี
                                                                                   ็
                          การสำรวจ โดยการใชแบบสอบถามหรอการสมภาษณแบบมโครงสรางเกบรวบรวมขอมล นกวจยเชงสำรวจ
                                                        ื
                                                                                                   ิ
                                            :
                                                                    Q
                                                                                                 ั
                                                              ั
               อาศัยข:อมูลทกลุEมตัวอยEางไดรายงานตนเอง (self-reported data) เกยวกบพฤตกรรมในอดต และสิ่งที่คิดในปiจจุบัน หรือ
                                                                                      ี
                                                                     ี
                                                                     ่
                                                                         ั
                                     :
                          ี่
                                                                             ิ
               ตั้งใจจะทำ เชEน การศึกษาผลกระทบของสื่อโดยใช:ระเบียบวิธีเชิงสำรวจในการตอบปiญหาการวิจัย “คนที่รับชมเนื้อหา
               ความรุนแรงทางโทรทัศนQในปริมาณมากมีความเชื่อวEาโลกรอบตัวเปUนสถานที่ที่นEากลัวหรือโหดร:ายมากเกินความเปUนจรง ิ
               หรือไมE” ผู:วิจัยจะมีคำถามเกี่ยวกับจำนวนชั่วโมงตEอวันในการชมโทรทัศนQ และคำถามที่วัดการรับรู:โอกาสที่ตนเองจะตก
               เปUนเหยื่อของความรุนแรง ผลวิจัยพบความสัมพันธQเชิงบวกระหวEางปริมาณการชมโทรทัศนQกับระดับความกลัว แต E
                                                                                                            ึ
               สหสัมพันธQระหวEางสองตัวแปรไมEได:แสดงถึงความสัมพันธQเชิงสาเหตุและผล การสำรวจเปUนวิธีศึกษาสิ่งที่คนกำลังคิด รู:สก
               และตั้งใจจะกระทำ ซึ่งเปUนองคQประกอบสำคัญของทัศนคต  ิ

               เกณฑ@ในการประเมินทฤษฎีเชิงตีความ

                       นักวาทศิลปû นักทฤษฎีวิพากษQ และนักตีความอื่นเห็นวEาทฤษฎีเชิงการตีความควรมีลักษณะตามเกณฑQตEอไปน  ี้
               ได:แกE การระบุคุณคEา การสรางความเข:าใจ การจุดประกายด:านสุนทรียะ การกระตุ:นความเห็นชอบ (agreement) การ
                                      :
               ปฏิรูปสังคม และการทำวิจัยเชิงคุณภาพ เกณฑQทั้ง 6 ในการประเมินทฤษฎีเชิงการตีความมีดังนี้
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38