Page 76 -
P. 76
ิ
ิ
ิ
์
ื
ิ
โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
61
66
การถอครองทรัพย์ อาจแบ่งได้เป็น
ื
(1) ทรัพย์ที่ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของ กรณีนี้รัฐต้องออกกฎหมายกำหนดเงื่อนไขว่าใครจะเป็นผู้ที่ได้เป็น
เจ้าของโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งโดยหลักแล้วจะใช้หลักผู้ค้นพบหรือผู้ครอบครองก่อน
(2) รัฐเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ (state or public property) ในการดูแลรักษาทรัพย์ดำเนินการโดย
พนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดหน้าที่และอำนาจไว้ โดยที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องไม่มีผลประโยชน์
ส่วนตัวทับซ้อนหรือเกี่ยวข้อง ทรัพย์ประเภทนี้ปัจเจกชนจะเข้าครอบครองเป็นเจ้าของไม่ได้ แม้ว่าจะเข้าไปใช้
ชั่วคราวก็ไม่ทำให้กรรมสิทธิ์ของรัฐสูญสิ้นไป
(3) เจ้าของร่วม (common property) อาจถือได้ว่าเป็นรูปแบบการถือครองทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ
มากที่สุด การจัดการต้องดำเนินการผ่านตัวแทน ซึ่งถูกตรวจสอบโดยกลุ่มอย่างใกล้ชิด ปัญหาก็คือถ้ากลุ่มมี
ขนาดใหญ่หรือเจ้าของกลุ่มไม่สนใจจะเกิดมีปัญหาผู้แอบอ้างใช้ฟรี (free rider) คือผู้ที่ใช้ประโยชน์อย่างเดียว
แต่ไม่ร่วมแรงร่วมใจดูแลรักษา ดังนั้นต้องมีเกณฑ์ในการใช้และบริหาร เช่น (1) จะต้องมีเกณฑ์ร่วมกันในการ
เรียนรู้และการถ่ายทอดของทุกคน (2) เน้นภูมิปัญญาการอยู่ร่วมกัน (3) ส่งเสริมความร่วมมือและความ
ไว้วางใจในบรรดาสมาชิก (4) ลดค่าใช้จ่ายในการบังคับกฎเกณฑ์ บังคับการ ป้องกันคนภายนอกไม่ให้เข้ามา
ใช้ ซึ่งหลักการใช้ประโยชน์ทรัพย์ส่วนรวมนี้เป็นข้อเสนอของ Elinor Ostrom ผู้ได้รับรางวัลเศรษฐศาสตร์
67
68
ในปี 2009 ที่ศึกษาวิจัยในเชิงประจักษ์ ซึ่งมีหลักการอยู่ 8 ประการ (1) ความชัดเจนของขอบเขต (2) ความ
สอดคล้อง (3) การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (4) การสอดส่องดูแล (5) บทลงโทษ (6) การจัดการความขัดแย้ง
(7) รัฐรับรู้และให้สิทธิการจัดการทรัพยากรร่วมของชุมชน และ (8) ความเชื่อมโยงของกติกาและการจัดการ
(4) ทรัพย์สินที่เป็นของส่วนบุคคล (private property) ที่กฎหมายรับรองให้ปัจเจกเป็นเจ้าของ ซึ่ง
ในทางเศรษฐศาสตร์ถือว่าเป็นการถือครองที่ดีรองลงไปจากทรัพย์ที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
การทำให้กรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองมีความถูกต้องตามกฎหมายอย่างชัดเจนมีความสำคัญ
กล่าวคือ หากสิทธิในทรัพย์สินไม่มีการระบุตามกฎหมายอย่างชัดเจนก็จะไม่มีเจ้าของที่มีอำนาจตามกฎหมาย
ในการควบคุมจัดการ นอกจากนี้ หากสิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์ไม่มีการกำหนดกฎกติกาไว้อย่างชัดเจน
อาจเกิดกรณีการใช้สิทธิเกินส่วนหรือมีการแอบอางโดยบุคคลอื่น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรับรอง
้
สิทธิในทรัพย์สินคือ การที่ผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองสามารถหาประโยชน์จากทรัพย์สินนั้นได้ ทั้งนี้
เพื่อที่จะสร้างแรงจูงใจในการบำรุงรักษาและปรับปรุงพัฒนาทรัพย์นั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด
66 สรุปความมาจาก ธรรมนิตย์. หน้า 21-22.
67 อภิชัย พันธเสน. 2544. พุทธเศรษฐศาสตร์ : วิวัฒนาการ ทฤษฎี และการประยุกต์กับเศรษฐศาสตร์สาขาต่างๆ. พิมพ์
ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : อัมรินทร์การพิมพ์. หน้า 668.
68 Elinor Ostrom. 1990. “Governing the Commons: The evolution of institutions for collective action”.
Cambridge University Press.