Page 175 -
P. 175

ิ
                                 ิ
          โครงการหนังสออเล็กทรอนกส เฉลมพระเกียรตสมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร      ี
                       ื
                                    ์
                                                                ั
                                                                        ุ
                                        ิ
                                                  ิ
                   เรื่องเล่าพระไตรปิฎก
         144
                                                                              ้
                                                                                       ุ
              ในอัพยากตสังยุตต์ เขมาสูตร (สัง.สฬา.18/410/468) มีสาระส าคัญ ดังนี เขมาภิกษณี
                                                           ่
       ผู้เปนอัครสาวิกาของพระผู้มีพระภาค ขณะจาริกไปพักอยูทีโตรณวัตถุ ระหว่างกรุงสาวัตถีกับ
          ็
                                                          ่
       เมืองสาเกต พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จไปพบและได้สนทนากัน พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสถามถึง
       อันตคาหิกทิฏฐิข้อที 7-10 พระเถรีถวายพระพรว่า เปนปญหาทีพระผู้มีพระภาคไม่ทรงตอบ ท้าวเธอ
                                                     ั
                       ่
                                                   ็
                                                           ่
       ตรัสถามถึงสาเหตุที่ไม่ทรงตอบ พระเถรีถวายพระพรเปนเชิงปฏิปุจฉาพยากรณและอุปมาโวหาร
                                                                           ์
                                                      ็
                                                 ้

       ความว่า นักค านวณ ไม่สามารถจะนับทรายในแม่นาคงคาให้ถูกต้องว่า มีประมาณเท่านั้นเท่านีเม็ด
                                                                                      ้

                       ้
       ไม่สามารถจะนับนาในมหาสมุทรได้ถูกต้องว่ามีประมาณเท่านั้นเท่านีอาฬหกะ (ทะนาน) ฉันใด
                                                                   ้
       การจะบัญญัติว่า หลังจากตายแล้ว “พระตถาคตเกิดอีก” ก็ดี “ไม่เกิดอีก” ก็ดี “ทั้งเกิดอีกและไม่เกิดอีก”
       ก็ดี และ “จะว่าเกิดอีกก็มิใช่ จะว่าไม่เกิดอีกก็มิใช่” ก็ดี ล้วนไม่ถูกต้องทั้งสิน ฉันนั้น เพราะจะบัญญัติ
                                                                    ้
                                                               ่
       ตถาคตด้วยรูป เวทนา สัญญา สังขาร หรือวิญญาณ อย่างใดอย่างหนึง รูป เวทนา สัญญา สังขาร และ
       วิญญาณเช่นนั้น พระตถาคตทรงละได้เด็ดขาดแบบถอนรากถอนโคน ไม่มีทางจะเกิดขึนได้อีกแล้ว
                                                                                ้
                                         ั
                                                    ้
       ต่อมา พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทูลถามปญหาเหล่านีกับพระผู้มีพระภาคอีก พระองค์ก็ตรัสตอบ
       อย่างเดียวกับทีพระเถรีตอบ ท้าวเธอจึงตรัสชมเชยว่า “นาอัศจรรย์จริง ไม่เคยปรากฏทีอรรถกับอรรถ
                    ่
                                                     ่
                                                                              ่
       พยัญชนะกับพยัญชนะ ของพระศาสดากับของพระสาวิกาเทียบเคียงกันได้เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน
       ในบททีส าคัญ”
             ่
              ในกุตูหลสาลาสูตร (สัง.สฬา.18/418/492) วัจฉโคตรปริพาชกเข้าไปเฝาพระผู้มีพระภาค
                                                                          ้
                                                             ่
                                           ่
                                                                           ์
                                                                                        ้
       กราบทูลว่า พวกสมณพราหมณสนทนากันทีศาลาถกแถลงเรื่องทีครูทั้ง 6 พยากรณสาวกว่า คนโนน
                                 ์
                     ้
                                                                                 ่
       ไปเกิดในภพโนน  ถึงสาวกทีได้รับยกย่องเปนอุดมบุรุษ เปนบรมบุรุษ บรรลุธรรมทีควรบรรลุ
                                                           ็
                                              ็
                                 ่
                                                                 ้
                                            ้
                                    ์
                                                          ้
       อย่างยิ่งแล้ว ก็ยังได้รับค าพยากรณว่า คนโนนไปเกิดในภพโนน คนโนนไปเกิดในภพโนนเหมือนกัน
                                                                               ้
                                                                    ์
                      ็
                             ่
       พระสมณโคดมเปนเจ้าหมูเจ้าคณะเหมือนครูเหล่านั้น และทรงพยากรณสาวกเหล่านั้นเหมือนครู
       เหล่านั้น แต่ทีต่างกัน คือ ทรงพยากรณสาวกผู้บรรลุธรรมทีควรบรรลุอย่างยิ่งว่า ตัดตัณหาได้ขาด
                                        ์
                   ่
                                                         ่
                  ์
       ถอนสังโยชนได้ ท าที่สุดแห่งทุกข์เพราะละมานะได้โดยชอบ เขากราบทูลว่า เขามีความสงสัยว่า
                                                                  ่
       พระองค์ทรงรู้ยิ่ง  พระผู้มีพระภาคตรัสว่า วัจฉโคตรปริพาชกสงสัยเรืองที่ควรสงสัย ตรัสต่อไปว่า
       พระองค์ทรงบัญญัติความอุบัติส าหรับผู้มีอุปาทานเหล่านั้น ไม่ทรงบัญญัติส าหรับผู้ไม่มีอุปาทาน
                                              ้
       ทรงยกอุปมาว่า คนมีอุปาทานเหมือนไฟมีเชือ ย่อมติดไฟได้อีก วัจฉโคตรปริพาชกทูลถามว่า
                                                                  ้
       กรณีที่ไฟถูกลมพัดไปไกล ไฟมีอะไรเปนเชือ ตรัสตอบว่า มีลมเปนเชือ เขาทูลถามต่อไปว่า เวลา
                                            ้
                                        ็
                                                              ็
                 ้
                       ้
        ่
                                                                               ้
       ทีสัตว์ทอดทิงกายนีไปและยังไม่มีกายอืน สัตว์มีอะไรเปนเชือ ตรัสตอบว่า มีตัณหาเปนเชือ
                                                   ็
                                                       ้
                                                                           ็
                                       ่
              ในอานันทสูตร (สัง.สฬา.18/419/493) วัจฉโคตรปริพาชกทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า อัตตา
       มีอยูหรือ อัตตาไม่มีอยูหรือ พระองค์ทรงนิ่งอยู และวัจฉโคตรปริพาชกกลับไปโดยไม่ได้รับ
                                                 ่
                           ่
           ่
   170   171   172   173   174   175   176   177   178   179   180