Page 176 -
P. 176
ุ
์
ิ
ิ
ั
ื
โครงการหนังสออเล็กทรอนกส เฉลมพระเกียรตสมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
ิ
ิ
สัมมนาวิชาการและนิทรรศการ “พระไตรปิฎกบาลีสู่สากล” 145
่
่
ค าตอบใด ๆ ท่านพระอานนท์ซึงนั่งอยูในทีนั้นด้วยได้ทูลถามว่า เพราะเหตุไร จึงไม่ทรงตอบ
่
่
วัจฉโคตรปริพาชก ตรัสตอบว่า ถ้าพระองค์ทรงตอบว่า อัตตามีอยู ก็ตรงกับลัทธิสัสสตทิฏฐิ (ทัศนะ
่
่
ทีว่าทุกสิ่งเทียง ไม่เปลี่ยนแปลง) ถ้าทรงตอบว่า อัตตาไม่มีอยู ก็ตรงกับอุจเฉททิฏฐิ (ทัศนะทีถือว่า
่
่
่
ุ
่
ทุกสิ่งขาดสูญ) อนึง ถ้าทรงตอบว่า อัตตามีอยู ก็อนโลมเข้ากับหลักอนัตตาของพระองค์ไม่ได้ ก็เท่ากับ
ส่งเสริมให้วัจฉโคตรปริพาชกเชือเรืองงมงายต่อไป
่
่
ั
ในจูฬมาลุงกยสูตร (ม.ม.13/126-128/137-141) พระสูตรทีว่าด้วยปญหาทางอภิปรัชญา
่
นอกจากทีท่านประมวลไว้ในอัพยากตสังยุตต์ดังกล่าวแล้ว ยังมีอีกจ านวนมาก ในทีนีขอนา
่
่
้
จูฬมาลุงกยสูตรมาเสนอเปนตัวอย่าง ดังนี ้
็
่
วันหนึง ขณะทีพระผู้มีพระภาคประทับอยู ณ พระเชตวัน ท่านพระมาลุงกยบุตรหลีกเร้น
่
่
อยู่ในทีสงัด ได้เกิดความคิดค านึงขึนว่า พระพุทธองค์ไม่ทรงตอบปญหา 10 ประการ ทรงวางเฉยต่อ
่
้
ั
ปญหาเหล่านี จึงรู้สึกไม่พอใจ และคิดจะเข้าเฝาทูลถามปญหาเหล่านีอีกครั้ง หากทรงตอบ ก็จะ
้
ั
้
้
ั
ประพฤติพรหมจรรย์ต่อไป แต่ถ้าไม่ทรงตอบอีก ก็จะลาสิกขาไปเปนคฤหัสถ์
็
้
ครั้นในเวลาเย็น ท่านพระมาลุงกยบุตรออกจากทีหลีกเร้น เข้าไปเฝาพระผู้มีพระภาค
่
กราบทูลเล่าความคิดค านึงดังกล่าวให้ทรงทราบทุกประการและกราบทูลเสริมว่า ถ้าทรงทราบค าตอบ
ั
้
ของปญหาเหล่านีก็จงตรัสตอบมาเถิด แต่ถ้าไม่ทรงทราบ ก็ขอให้ตรัสบอกมาตรง ๆ เถิดว่า
ไม่ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า “พระองค์ทรงให้ค ามั่นสัญญาไว้หรือว่า ถ้าพระมาลุงกยบุตรมา
ั
้
ประพฤติพรหมจรรย์ ในพระองค์ พระองค์จะทรงตอบปญหาเหล่านี ท่านพระมาลุงกยบุตรทูลตอบว่า
ไม่ทรงให้ค ามั่นสัญญาไว้”
ตรัสถามต่อไปว่า “พระมาลุงกยบุตรได้กราบทูลพระองค์ไว้ก่อนหรือว่า ถ้าพระองค์ทรงตอบ
ั
ปญหาเหล่านี ตนจะมาประพฤติพรหมจรรย์ในพระองค์” ท่านพระมาลุงกยบุตรทูลตอบว่า “ไม่ได้กราบ
้
ทูลไว้ก่อน”
็
่
จึงทรงสรุปว่า “โมฆบุรุษ เมือเปนเช่นนั้น เธอเปนใคร จะมาทวงอะไรกับใคร” ตรัสยืนยันว่า
็
“บุคคลใดกล่าวว่า ถ้าพระองค์ไม่ทรงตอบปญหาเหล่านี ตนจะไม่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระองค์
้
ั
ต่อให้บุคคลนั้นตายไป พระองค์ก็ไม่ทรงตอบ”