Page 9 -
P. 9
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อีกหนึ่งนโยบายในกลุ่มนี้คือการขยายตลาดส่งออก ที่ถึงแม้จะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น แต่สวัสดิการ
สังคมเพิ่มขึ้น แสดงว่า รายได้ของประชากรเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น และหากยิ่งสามารถส่งออก
สินค้าประเภทข้าว และยางพารา ได้เพิ่มขึ้น ความเหลื่อมล้ำยิ่งลดลงมากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากมีผู้มีรายได้
น้อยอยู่ในสาขามากกว่าสาขาอื่น นโยบายลักษณะนี้เช่น การส่งเสริมการค้าชายแดน การเจรจาการค้าระหว่าง
ประเทศ เป็นต้น
กลุ่มที่ 2 นโยบายที่สามารถทำได้ แต่มีเงื่อนไขในการดำเนินนโยบาย คือกลุ่มนโยบายที่มีขนาด
ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ แต่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อเป้าหมายการพัฒนาบางเป้าหมาย
ได้แก่ นโยบายด้านการผลิต และปัจจัยการผลิตในบางสาขาการผลิตที่มีผลทำให้ปริมาณสินค้าเพิ่มสูงขึ้น แต่
ราคาผลผลิตตกต่ำจนทำให้รายได้เกษตรกรลดลง นอกจากนี้ยังประกอบด้วยนโยบายด้านการเพิ่มมูลค่าสินค้า
และนโยบายด้านอุดหนุนเกษตรกร ตัวอย่างแนวทางในการกำหนดเงื่อนไข เช่น
o นโยบายด้านการผลิต และปัจจัยการผลิต ควรทำเฉพาะบางสินค้าที่มีความยืดหยุ่นของราคาต่อ
อุปสงค์ไม่ต่ำ หรือทำ policy mix ควบคู่กับการเพิ่มอุปสงค์ เช่น การขยายตลาดส่งออก เป็นต้น
เพื่อให้รายได้โดยรวมของเกษตรกรไม่ลดลง
o นโยบายด้านการเพิ่มมูลค่าสินค้า แม้เป็นนโยบายที่ผลการวิเคราะห์ระบุถึงผลเสียที่มีต่อระบบ
เศรษฐกิจ ทั้งสวัสดิการสังคมลดลง เศรษฐกิจหดตัว และอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น แต่ผลกระทบเชิงลบ
ดังกล่าวสามารถเปลี่ยนเป็นผลกระทบเชิงบวกได้ หากสินค้าที่เพิ่มมูลค่า มุ่งเน้นไปที่ตลาดส่งออก
มากกว่าการบริโภคภายในประเทศ หรือเป็นกลยุทธ์ในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการแต่ละราย
ไม่ส่งผลในการเปลี่ยนแปลงในลักษณะเดียวกันทั้งตลาด
o นโยบายด้านอุดหนุนเกษตรกร จากผลการศึกษาพบว่า การประกันรายได้เป็นการอุดหนุนที่มี
ประสิทธิภาพมากที่สุด แต่เหมาะสมที่จะเป็นนโยบายในระยะสั้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเท่านั้น
เพราะหากเป็นการช่วยเหลือในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อคุณภาพสินค้าเกษตรกรของไทย อย่างไร
ก็ตามหากพัฒนาเป็นระบบประกันราคาสินค้าเกษตรที่มีการจ่ายค่าเบี้ยประกัน เพื่อเป็น
หลักประกันรายได้ให้แก่เกษตรกรเมื่อราคาสินค้าตกต่ำ จะเป็นนโยบายที่สร้างภูมิคุ้มกันให้กับ
เกษตรกรได้ดีกว่า
กลุ่มที่ 3 นโยบายไม่เร่งด่วน คือกลุ่มนโยบายที่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อย หรือแทบไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงต่อระบบเศรษฐกิจ เช่น การหันหันมาบริโภคสินค้าเกษตรภายในประเทศ ลดภาษีนำเข้าสินค้า
เกษตร เป็นต้น
การกำหนดนโยบายด้านเกษตรจำเป็นต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับสาขาการผลิตแต่ละสาขาอย่าง
เจาะจง เนื่องจากแม้จะเป็นนโยบายเดียวกัน แต่เมื่อนำไปใช้กับสาขาการผลิตที่ต่างกัน ก็อาจส่งผลกระทบใน
ลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการดำเนินนโยบายแบบ uniform กับภาคเกษตรในสาขาต่าง
ๆ ตัวอย่างเช่น นโยบายการเพิ่มผลิตภาพการผลิต แม้จะมีประสิทธิผลในการเพิ่มสวัสดิการสังคมโดยรวมและ
จ