Page 11 -
P. 11
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายในการวัดขนาดผลกระทบของนโยบายการเกษตรในรูปแบบต่าง ๆ ในลักษณะ
ของการประเมินไปข้างหน้า (ex ante) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการประมาณการ
ผลกระทบของนโยบายการเกษตรที่สนใจ ที่มีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ทั้งในมิติของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน ความยากจน และการกระจายรายได้ รวมทั้งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
นโยบายการเกษตรที่ทำการวิเคราะห์เป็นนโยบายเกษตรในระดับตัวแปรนโยบายพื้นฐาน เพื่อให้
สามารถนำไปประยุกต์เข้ากับนโยบายเกษตรที่มีความเจาะจงมากขึ้นได้อย่างครอบคลุม นโยบายดังกล่าว
ครอบคลุมตั้งแต่นโยบายด้านการผลิต ปัจจัยการผลิต การขนส่งและกระจายสินค้า การบริโภค การนำเข้า
ส่งออก และการอุดหนุนในภาคเกษตร
เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์คือแบบจำลองดุลยภาพทั่วไป (Computable General Equilibrium
Model: CGE) ซึ่งเป็นแบบจำลองประเภทเศรษฐกิจโดยรวมประเภทหลายสาขา โดยนำไปเชื่อมโยงกับ
แบบจำลองจุลภาคครัวเรือน (Household Microsimulation) เพื่อวัดผลกระทบที่มีต่อความยากจน การ
กระจายรายได้ และครัวเรือนเกษตรกร ฐานข้อมูลของแบบจำลองจุลภาคครัวเรือนได้มาจากข้อมูลการสำรวจ
ภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ส่วนฐานข้อมูลที่สำคัญของแบบจำลอง CGE ได้มาจากตารางปัจจัยการ
ผลิตผลผลิตปี 2553 โดยผู้วิจัยได้ปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปี 2560 โดยใช้ข้อมูลบัญชีรายได้ประชาชาติ และใช้
แนวทางของการปรับสเกล (Scaling Approach) ด้วยวิธี Maximum Entropy เพื่อลดค่าผิดพลาดให้ต่ำสุด
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงขนาดและความแตกต่างของผลกระทบซึ่งเกิดจากนโยบายการเกษตร
แบบต่าง ๆ ที่มีต่อเป้าหมายการพัฒนาในแต่ละมิติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าภายใต้บริบทของดุลยภาพทั่วไป ผลกระทบ
ทางอ้อมอาจมีบทบาทสำคัญไม่แพ้ผลกระทบทางตรง นอกจากนี้ผลกระทบของนโยบายเกษตรที่มีต่อเป้าหมาย
การพัฒนาในมิติต่าง ๆ ยังมีลักษณะได้อย่างเสียอย่าง (trade off) รวมทั้งแม้จะเป็นนโยบายเดียวกัน แต่เมื่อ
นำไปใช้กับแต่ละสาขาการผลิต อาจส่งผลกระทบในลักษณะที่แตกต่างกัน การกำหนดนโยบายจึงจำเป็นต้อง
คำนึงถึงความเหมาะสมกับสาขาการผลิตแต่ละสาขาอย่างเจาะจง
นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการการผลิต และปัจจัยการผลิตที่ให้ผลด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
ส่วนใหญ่ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมเติบโต อัตราเงินเฟ้อลดลง แต่ก็ทำให้สถานการณ์ความยากจนและการ
กระจายรายได้แย่ลงหรือไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับนำไปใช้กับสาขาการผลิตใด การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมีส่วน
สำคัญทำให้ปริมาณผลผลิตในตลาดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการเพิ่มปริมาณผลผลิตในบางสาขา ส่งผลเสียต่อรายได้
เกษตรกร รวมถึงความยากจน และการกระจายรายได้ เนื่องจากสาขาเหล่านั้นผลิตสินค้าที่มีความยืดหยุ่นของ
อุปสงค์ต่อราคาต่ำ จึงทำให้เมื่อมีการผลิตเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าลดลงมากกว่าปริมาณอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้
รายได้เกษตรกรลดลง ตัวอย่างเช่น การทำนา พืชไร่อื่น ๆ อ้อย ยางพารา ผลิตผลเกษตรอื่น ๆ เป็นต้น
ช