Page 8 -
P. 8
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นโยบายการลดภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรพบว่า ส่งผลดีต่อตัวแปรเป้าหมายการพัฒนาต่าง ๆ แต่ส่งผลเสียต่อการ
กระจายรายได้ และไม่ส่งผลกระทบต่อความยากจนอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่การลดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีของ
สินค้าเกษตรส่งผลดีต่อตัวแปรเป้าหมายการพัฒนาต่าง ๆ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการกระจายรายได้อย่างมี
นัยสำคัญ
ในด้านนโยบายอุดหนุนภาคเกษตรเพื่อเพิ่มรายได้ของเกษตรกร นโยบายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดใน
การเพิ่มรายได้เกษตรกร ได้แก่ นโยบายการประกันรายได้แบบจำกัดปริมาณผลผลิต โดยทำให้เกษตรกรมี
รายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าจำนวนเงินที่ใช้ในการอุดหนุน ในขณะที่นโยบายการอุดหนุนปัจจัยการผลิต และการ
ประกันราคาผลผลิต (แบบรับประกันผลผลิตทั้งหมด) เงินอุดหนุนเพียงร้อยละ 50-60 มีผลในการเพิ่มรายได้
ของเกษตรกร ในขณะที่เงินอุดหนุนที่เหลือกลายเป็นสวัสดิการสังคมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเปรียบเสมือนการอุดหนุนผู้ใช้
สินค้าเกษตร ซึ่งรวมถึงผู้ใช้สินค้าในต่างประเทศด้วย แม้ผลการวิเคราะห์จะแสดงให้เห็นว่านโยบายประกัน
รายได้มีประสิทธิภาพในการอุดหนุนเกษตรกรมากที่สุด แต่นโยบายก็อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของสินค้า
เกษตร โดยทำให้สินค้าที่ใช้นโยบายประกันรายได้มีคุณภาพลดลงเนื่องจากเกษตรกรขาดแรงจูงใจในการผลิต
สินค้าที่มีคุณภาพ เนื่องด้วยไม่ว่าจะผลิตสินค้าด้วยคุณภาพอย่างไรเกษตรกรยังคงมีรายได้ในราคาประกัน
แม้ว่าภาครัฐอาจใช้วิธีตรวจสอบคุณภาพสินค้าเพื่อกำหนดเงินชดเชยรายได้ให้แก่เกษตรกรตามคุณภาพของ
สินค้า แต่การตรวจสอบคุณภาพสินค้าดังกล่าวทำได้ยากและมีต้นทุนการดำเนินงานที่สูง ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า
แม้ว่านโยบายนี้จะมิได้แทรกแซงกลไกตลาด แต่ก็ส่งผลทำให้กลไกตลาดทำงานได้ไม่สมบูรณ์ และอาจส่งผล
กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของของสินค้าเกษตรของประเทศในระยาว หากมีการดำเนินนโยบาย
อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน เนื่องจากไม่ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรหรือแม้กระทั่งทำให้
คุณภาพสินค้าเกษตรลดลง ทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
จากผลการศึกษาที่ได้ทำให้ทราบถึงทิศทางและขนาดคร่าว ๆ ของผลกระทบของนโยบายการเกษตร
แบบต่างๆ หากตั้งเป้าหมายที่การทำให้เศรษฐกิจเกิดการเติบโต และประชาชนโดยภาพรวมอยู่ดีกินดี (ทั้ง
ประชาชนในภาคเกษตร และนอกภาคเกษตร) จะสามารถจัดกลุ่มนโยบายที่ควรมีการส่งเสริมดังนี้ (ลำดับ
ความสำคัญในการดำเนินนโยบายจะเรียงตามกลุ่มที่จัดทำขึ้น)
กลุ่มที่ 1 นโยบายที่ต้องทำ คือกลุ่มนโยบายที่มีขนาดผลกระทบเศรษฐกิจที่สูง และสร้างผลกระทบที่
ดีต่อทุก ๆ เป้าหมายการพัฒนา นั่นคือ นโยบายด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและกระจายสินค้า เพราะ
เป็นนโยบายที่มีลักษณะ Pareto Improvement ที่ทำให้คนบางกลุ่มดีขึ้น ในขณะที่ไม่ส่งผลเสียต่อคนกลุ่มอื่น
(สวัสดิการสังคมเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจขยายตัว อัตราเงินเฟ้อลดลง เกษตรกรรายได้ดีขึ้น) นโยบายที่มีลักษณะนี้
เช่น การพัฒนาระบบขนส่งสินค้าโลจิสติกส์ การพัฒนาระบบตลาดการค้าขายสินค้าเกษตร เป็นต้น
ง