Page 92 -
P. 92
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
90 Thai J. For. 33 (1) : 85-96 (2014)
จากการประเมินความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ ข้อมูลระดับครัวเรือน พบว่า จ�านวนสมาชิกใน
การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ พบว่า ในภาพรวมผู้ให้ ครัวเรือนของกลุ่มตัวอย่าง เฉลี่ย 7 คน อยู่ในวัยแรงงาน
สัมภาษณ์มีความรู้ความเข้าใจค่อนข้างดี (คะแนนเฉลี่ย 4 คน มีที่ดินถือครองเฉลี่ย 4 แปลงต่อครัวเรือน เนื้อที่
0.86) โดยเฉพาะเรื่องการอนุรักษ์ ซึ่งส่วนใหญ่ทราบดีว่า ประมาณ 16.1 ไร่ รายได้ครัวเรือนเฉลี่ยประมาณ 34,254
การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ หมายถึงการใช้ประโยชน์ บาทต่อปี รายจ่ายครัวเรือนเฉลี่ย 22,836 บาทต่อปี
ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า ต้องใช้อย่างคุ้มค่า ให้ การใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้
เกิดประโยชน์มากที่สุด สูญเสียน้อยที่สุด และใช้ได้ จากการศึกษา พบว่า ผลผลิตจากป่าที่ถูกน�ามา
ยาวนานที่สุด และเห็นว่าป่าไม้นอกจากเป็นแหล่งผลิต ใช้ประโยชน์โดยประชาชนในพื้นที่มีความหลากหลาย
ไม้เพื่อประโยชน์ใช้สอย สร้างบ้านเรือน แหล่งเชื้อเพลิง ของชนิดผลผลิตและวัตถุประสงค์การใช้ประโยชน์ ซึ่ง
แหล่งเพิ่มพูนรายได้ของครัวเรือนแล้ว ยังช่วยป้องกัน สามารถแบ่งออกได้เป็นผลผลิตส�าหรับใช้สอยทั่วไป
อุทกภัย และปลูกจิตส�านึกของประชาชนในท้องถิ่น ประกอบด้วย ฟืน ไผ่ ดอกแขม (หญ้าไม้กวาด) และ
ให้เกิดความรักความหวงแหนป่า เป็นการรักษาป่าให้ กล้วยไม้ป่า ผลผลิตส�าหรับเป็นอาหาร ประกอบด้วย
คงอยู่ตลอดไป อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ผู้ตอบมี หน่อไม้ พืชผักป่า ผลไม้ป่า สัตว์ป่า และเห็ด ผลผลิต
ความรู้ความเข้าใจน้อย เช่น เห็นว่าการเก็บหาของป่า ส�าหรับท�าเป็นยารักษาโรคหรือพืชสมุนไพร
ไม่เป็นการท�าลายทรัพยากรป่าไม้ (คะแนนเฉลี่ย 0.12)
โดยส่วนใหญ่ ร้อยละ 40.5 ได้รับข้อมูลข่าวสารด้านการ ชนิดผลผลิตจากป่าที่น�ามาใช้ประโยชน์
อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้จากเพื่อนบ้าน รองลงมา ร้อยละ Figure 2 แสดงสัดส่วนของกลุ่มตัวอย่างครัวเรือน
33.3 ได้จากผู้น�าชุมชนและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่ใช้ประโยชน์ผลผลิตจากป่าชนิดต่างๆ ซึ่งกว่าร้อยละ
ส�าหรับ ความรู้ความเข้าใจทางด้านกฎหมายป่าไม้ 80 ของผู้ให้สัมภาษณ์ระบุว่าครัวเรือนของตนใช้ประโยชน์
แม้ว่าเกือบทุกราย (ร้อยละ 99.4) เคยได้รับการฝึกอบรม ผลผลิตจากป่าดังกล่าวข้างต้นเกือบทุกประเภท ยกเว้น
หลักสูตรการเผยแผ่กฎหมายป่าไม้ โดยร้อยละ 84.5 ได้รับ แมลงกินได้และพืชสมุนไพรที่มีสัดส่วนผู้ใช้เพียง
การอบรมจากห้องการเกษตรและป่าไม้อ�าเภอ แต่ส่วน สามในสี่และหนึ่งในสามของครัวเรือนตัวอย่างทั้งหมด
ใหญ่ยังมีความรู้ความเข้าใจในระดับไม่มาก (คะแนนเฉลี่ย ตามล�าดับ ปริมาณการใช้ประโยชน์ผลผลิตจากป่ามี
0.28) ผู้ให้สัมภาษณ์เข้าใจดีว่าการประกาศพื้นที่ป่าเป็น ความแตกต่างกันออกไปในแต่ละครัวเรือน สามารถ
พื้นที่ป่าอนุรักษ์แห่งชาติท�าให้ราษฎรมีโอกาสน้อยลง แบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ คือ น้อย (Low) ปานกลาง
ในการใช้ประโยชน์จากป่า หากทางราชการได้ประกาศ (Moderate) และมาก (High) โดยเปรียบเทียบกับปริมาณ
ให้พื้นที่ป่าใดเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแล้วบุคคลใดจะ การใช้ผลผลิตจากป่าแต่ละชนิดของครัวเรือนตัวอย่าง
เข้าไปยึดถือครอบครองพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ แต่ยังเห็น เรียงตามล�าดับความส�าคัญของผลผลิต ดังรายละเอียด
ว่าประชาชนสามารถแผ้วถางพื้นที่ป่าอนุรักษ์แห่งชาติ ที่แสดงใน (Figure 2)
เพื่อท�าเป็นไร่เลื่อนลอยได้