Page 50 -
P. 50
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
44 วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
8
กับหลักอิทัปปัจจยตา ที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน จึงหมุนวนไปเป็น
วัฎจักร เป็นไปเพื่อการพัฒนาตนและสังคม
อย่างไรก็ตาม แนวทางปฏิบัติในด้านนิเวศวิทยาเพื่อการพัฒนาจิตและสังคมอย่างยั่งยืน
สำหรับองค์กรที่เป็นหน่วยงานของรัฐ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น คณะสงฆ์ ภาคประชาชน และภาค
เอกชนนั้นมีลักษณะที่แตกต่างกัน ทำให้จุดเริ่มต้นหรือตัวนำทางมีความแตกต่างกัน บางองค์กรที่มีศีล
เด่น บางองค์กรมีสมาธิเด่น และบางองค์กรมีปัญญาเด่น แต่ทุกองค์กรมีหลักธรรมในการดำเนินควบคู่
กันไปอย่างบูรณาการโดยไม่สามารถแยกอย่างใดอย่างหนึ่งได้และเป็นไปตามหลักอิทัปปัจจยตา รูปแบบ
ของการปฏิบัติ จึงมีลักษณะดังแผนภาพต่อไปนี้
อิทัปปจจยตา
ภาคประชาชน องคกรเอกชน
สมาธิ ศีล
ญ ป า ญ ศีล
หนวยงานรัฐ/
องคกรคณะสงฆ องคกรบริหารสวน
น ่ิ ถ ง อ ท
อิทัปปจจยตา
แผนภาพที่ 1 รูปแบบของการปฏิบัติที่มีลักษณะแตกต่างของแต่ละหน่วยงาน
จากแผนภาพ สรุปเป็นกระบวนการปฏิบัติงานเชิงพื้นที่คือ วงรอบภายในซึ่งแบ่งเป็น 4 ส่วน
นั้น เป็นตัวแทนการลักษณะการปฏิบัติงานของพื้นที่ที่มีความโดดเด่นในการประยุกต์หลักไตรสิกขา 1)
องค์กรคณะสงฆ์มีความเด่นในการประยุกต์ใช้ด้านปัญญา เพราะผู้นำองค์กรเป็นพระสงฆ์ที่พยายามเน้น
ย้ำให้ชุมชนและผู้เกี่ยวข้องปรับเปลี่ยนทัศนคติไปในทางที่ดีจากที่เคยมี สร้างความเข้มแข็งในการอนุรักษ์
ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมตามแนวทางพระพุทธศาสนา ปลูกฝังคุณค่าในการรักธรรมชาติ การตระหนักในการใช้
ประโยชน์จากธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมร่วมกัน องค์กรคณะสงฆ์จึงเป็นตัวแทนด้านจิตวิญญาณของสังคม
ในแง่การอนุรักษ์ ฟื้นฟูธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม แต่มีส่วนที่ประยุกต์ด้านศีลและสมาธิด้วย ในขณะที่ 2)
8 อิทัปปัจจยตา หมายถึง ภาวะที่มีอันนี้ ๆ เป็นปัจจัย ความเป็นไปตามความสัมพันธ์แห่งเหตุปัจจัย หรือกระบวนธรรมแห่งเหตุ
ปัจจัย. ซึ่งในงานวิจัยนี้ หมายถึงกระบวนการดำเนินการที่ประสานสัมพันธ์ไปตามเหตุปัจจัยในแต่ละพื้นที่ที่ต้องพิจารณาสาเหตุ
ที่ทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมของแต่ละพื้นที่ และกระบวนการอนุรักษ์ฟื้นฟู ที่ต้องอาศัยทั้งแนวทางฝ่ายโลกและฝ่ายธรรม
ดู นิยามจาก พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต), (2546), พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์, พิมพ์ครั้งที่ 11, (กรุงเทพฯ :
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย), หน้า 356.