Page 29 -
P. 29
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ปีที่ 41 ฉบับที่ 2 23
ในอดีตแม้จะมีชาวบ้านเพียงไม่กี่ครัวเรือนที่ตั้งบ้านเรือนในพื้นที่ป่า แต่เมื่อมีการประกาศพื้นที่เป็นเขต
รักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ชาวบ้านก็ต้องอพยพออกมาตั้งถิ่นฐานโดยรอบ อย่างไรก็ดี แม้พื้นที่บ้านร่มโพธิ์ทอง
จะติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ แต่บนภูเขากลับมีแต่หญ้าคา เป็นเหตุให้หน่วยงานราชการ และกลุ่ม
อนุรักษ์ต่างๆ เข้ามาเพื่อหาหนทางฟื้นฟูและอนุรักษ์ ในระยะแรกของการประกาศพื้นที่เป็นเขตรักษาพันธุ์
สัตว์ป่า ได้รับการต่อต้านจากชาวบ้าน เพราะป่าเป็นแหล่งปัจจัยสี่ของชาวบ้าน เมื่อมีการปิดป่าก็ทำให้ชาว
บ้านส่วนใหญ่ทำใจไม่ได้ และต้องอาศัยการปรับตัวเป็นอย่างมาก การรวมกลุ่มเป็นกลุ่มป่าชุมชนร่มโพธิ์
ทองก็เป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องอาศัยการให้ข้อมูล การสร้างความเข้าใจ และการจูงใจจากผู้นำของ
ชุมชน การเริ่มก่อตั้งกลุ่มป่าชุมชนนั้น นอกจากความช่วยเหลือจากองค์กรภายนอกแล้ว การริเริ่มกลุ่มยัง
เกิดขึ้นจากการไปศึกษาดูงานจากพื้นที่อื่นด้วย ทำให้ผู้นำในชุมชนมีแนวคิดในการสร้างพื้นที่ป่าในชุมชน
เพื่อให้เป็น “มรดก” แก่ลูกหลาน จึงมีการขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ รวมทั้งมีการรวมกลุ่มคนในชุมชนเพื่อ
ทำการฟื้นฟูสภาพป่าขึ้นมาโดยการรณรงค์ปลูกป่า รวมทั้งการบวชป่าเพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า โดย
ระยะ 1-2 ปีแรกมีการดูแลป้องกันการเกิดไฟป่า พอช่วง 3-4 ปีต่อมามีการส่งเสริมการปลูกป่า และดูแล
ควบคู่กันต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
กระบวนการจัดการป่าโดยอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชน
จากการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูล ผู้วิจัยสรุปกระบวนการจัดการป่าโดยอาศัยการมีส่วนร่วมของ
ชุมชนได้ 4 ขั้นตอน คือ
1) การมีส่วนร่วมในการเริ่มต้นกลุ่มป่าชุมชนร่มโพธิ์ทอง
2) การมีส่วนร่วมในการคัดเลือกคณะกรรมการป่าชุมชนร่มโพธิ์ทอง
3) การมีส่วนร่วมในการกำหนดและรักษากติกาป่าชุมชนร่มโพธิ์ทอง
4) การมีส่วนร่วมในกิจกรรมชุมชนเกี่ยวกับป่าชุมชนร่มโพธิ์ทอง
รายละเอียด ดังนี้
1) การเริ่มต้นกลุ่มโดยอาศัยการมีส่วนร่วม
การเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการป่าชุมชนร่มโพธิ์ทองในระยะก่อตั้งเป็นไปแบบเครือข่าย โดย
อาศัยแกนนำกลุ่มย่อยแต่ละกลุ่มเข้าไปพูดคุยกับสมาชิกและประชาสัมพันธ์ต่อไปยังชาวบ้านคนอื่นๆ เมื่อ
ได้เครือข่ายพอสมควรจึงจัดประชุมทุกวันที่ 5 ของเดือน แต่ปัจจุบันวิธีการสื่อสารในชุมชนเปลี่ยนแปลง
ตามความเหมาะสมเป็นการแจ้งข่าวสารโดยใช้เสียงตามสายเป็นหลัก
2) การมีส่วนร่วมในการคัดเลือกคณะกรรมการป่าชุมชนร่มโพธิ์ทอง
ในการคัดเลือกคณะกรรมการป่าชุมชนร่มโพธิ์ทอง ซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎระเบียบโดยตรงนั้น
เกิดขึ้นจากการชักชวนสมาชิกที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ติดกับป่าชุมชนมาร่วมกันเป็นคณะกรรมการ คณะ
กรรมการจึงทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับชุมชนได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้กฎระเบียบของชุมชนเข้มแข็ง ทั้งนี้
โครงสร้างของคณะกรรมการมีลักษณะยืดหยุ่น กล่าวคือ คณะกรรมการประกอบด้วยแกนนำหลักๆ 5
คน ซึ่งมาจากการสรรหาโดยผู้ใหญ่บ้าน และการแต่งตั้งสมาชิกอื่นๆ มาร่วมกันดูแลจัดการป่าเพิ่มอีก
ประมาณ 20 คน ที่ผ่านมาจะให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นประธานคณะกรรมการมาโดยตลอด โดยคณะกรรมการมี
วาระ 2 ปี