Page 67 -
P. 67

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว





                       เคยเข๎ารํวมโครงการจ าน ายุ๎งฉางของ ธ.ก.ส. มีความนําจะเป็นในการตัดสินใจจัดเก็บข๎าวไว๎รอราคามากกวํากลุํมที่ไมํ
                       เคยเข๎ารํวมโครงการฯ ซึ่งเกษตรกรสํวนใหญํรู๎จักโครงการจ าน ายุ๎งฉาง แตํการรู๎จักโครงการฯ ไมํมีผลตํอการตัดสินใจ
                       จัดเก็บข๎าวของเกษตรกร เชํนเดียวกับการเป็นสมาชิกของสถาบันการเงินหรือการรวมกลุํมเกษตรกร แม๎วําผลการ
                       ประมาณคําสัมประสิทธิ์ที่เป็นบวก ซึ่งสมาชิกของกลุํมอาจจะท าให๎ตัดสินใจเก็บข๎าวไว๎รอราคาเพิ่มขึ้นแตํไมํพบ
                       ความสัมพันธ์อยํางมีนัยส าคัญทางสถิติจากตัวแปรดังกลําว

                           การวิเคราะห์แบบจ าลอง marginal  effect  ซึ่งก าหนดให๎ปัจจัยอื่นๆ คงที่เมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัว
                       แปรอิสระแตํละปัจจัยกับตัวแปรตาม ผลการศึกษาแสดงให๎เห็นวําคําสัมประสิทธิ์การประมาณคําของตัวแปรตาม
                       เป็นไปในทิศทางเดียวกับผลการวิเคราะห์คําสัมประสิทธิ์ในแบบจ าลองหลัก ส าหรับการวิเคราะห์ความนําจะเป็นของ
                       การตัดสินใจจัดเก็บข๎าวหอมมะลิของเกษตรกรแสดงดังตารางที่ 4.7 ซึ่งความนําจะเป็นของการจัดเก็บข๎าวหอมมะลิ
                       ไว๎รอราคาของเกษตรกรตัวอยํางเทํากับ 47.4%  เมื่อจ าแนกตามสภาพแวดล๎อมการผลิตและรูปแบบการผลิต ผล
                       การศึกษาสอดคล๎องกับแบบจ าลองดังกลําวคือเกษตรกรที่ปลูกข๎าวทั่วไปในพื้นที่นาน้ าฝนมีความนําจะเป็นในการ
                       ตัดสินใจจัดเก็บข๎าวเพื่อรอราคาขายมากกวําเกษตรกรกลุํมอื่นๆ ในขณะที่เมื่อจ าแนกตามภูมิภาคจะพบวําเกษตรกร
                       ในเขตภาคอีสานใต๎มีความนําจะเป็นของการจัดเก็บข๎าวไว๎รอราคา 64.4% สูงกวําเกษตรกรในภาคอีสานกลางและ
                       อีสานเหนือที่มีความนําจะเป็นของการจัดเก็บข๎าวไว๎เพื่อรอราคาเพียง 39.8 และ 8.6% ตามล าดับ


                       ตารางที่ 4.8  คําความนําจะเป็นของการจัดเก็บข๎าวหอมมะลิของเกษตรกร จ าแนกตามสภาพแวดล๎อมการผลิตและ
                                 การตัดสินใจจัดเก็บข๎าว
                       รูปแบบการผลิต/ภูมิภาค     ความน่าจะเป็นของการจัดเก็บข้าวไว้รอราคา (Probability of storage)
                                                    Mean          Std.Dev.       min          max
                       รูปแบบการผลิต
                       ปลูกข๎าวทั่วไป-นาน้ าฝน           0.611         0.276        0.027        0.990
                       ปลูกข๎าวอินทรีย์-นาน้ าฝน         0.441         0.280        0.011        0.951
                       ปลูกข๎าวทั่วไป-นาชลประทาน         0.158         0.150        0.007        0.581
                       ภูมิภาค
                       อีสานเหนือ                        0.086         0.072        0.007        0.266
                       อีสานกลาง                         0.395         0.235        0.036        0.873
                       อีสานใต๎                          0.644         0.263        0.066        0.990
                       รวม                               0.474         0.307        0.007        0.990
                       ที่มา: จากการค านวณ


                       สรุป
                              การเก็บข๎าวของเกษตรกรมีวัตถุประสงค์หลักคือ 1) เก็บไว๎เพื่อบริโภคในครัวเรือน 2) เก็บไว๎เพื่อเป็นเมล็ด
                       พันธุ์ และ 3) เก็บไว๎ขาย เกษตรกรที่เก็บผลผลิตไว๎ขายจะมีประมาณ 23.26% จากข๎อมูลพบวําเกษตรกรที่เก็บข๎าวไว๎
                       ขายหรือเข๎ารํวมโครงการจ าน ายุ๎งฉางสํวนใหญํจะเป็นเกษตรกรรายใหญํที่มีพื้นที่เพาะปลูกข๎าวหอมมะลิมากกวํา 30
                       ไรํขึ้นไป พื้นที่นาน้ าฝนมีสัดสํวนของเกษตรกรที่เก็บข๎าวไว๎รอราคามากกวําในพื้นที่ชลประทาน โดยเกษตรกรในพื้นที่
                       ชลประทานสํวนใหญํขายข๎าวทันทีหลังเก็บเกี่ยวและเก็บผลผลิตข๎าวไว๎ขายเพียง 13.33%  เนื่องจากเกษตรกรสํวน
                       ใหญํจ าเป็นต๎องน าเงินไปใช๎ลงทุนและใช๎แรงงานเพื่อเตรียมดินในฤดูนาปรังจึงขาดแคลนแรงงานในการตากข๎าว
                       ในขณะที่เกษตรกรที่มียุ๎งฉางมีจ านวนเกษตรกรที่ขายข๎าวทันทีหลังเก็บเกี่ยวน๎อยกวําเกษตรกรที่ไมํมียุ๎งฉาง ซึ่งกวํา
                       93.44% ของเกษตรกรที่ไมํมียุ๎งฉาง ขายข๎าวทันทีหลังจากเก็บเกี่ยวโดยไมํเก็บไว๎รอราคา และเกษตรกรในภาคอีสาน
                       ใต๎มีสัดสํวนของเกษตรกรที่เก็บข๎าวไว๎รอราคามากที่สุด

                              ต๎นทุนการปลูกข๎าวหอมมะลิที่เป็นเงินสดของเกษตรกรในพื้นที่ศึกษาเฉลี่ย 5,066  บาทตํอตัน โดย
                       เกษตรกรในพื้นที่ชลประทานมีต๎นทุนการผลิตต่ าที่สุดเฉลี่ยเพียง 4,860 บาทตํอตัน ในขณะที่เกษตรกรที่เก็บข๎าวไว๎
                       ขายและเก็บไว๎บริโภคมีต๎นทุนการผลิตข๎าวหอมมะลิที่เป็นเงินสดไมํแตกตํางกันมากนัก เมื่อประเมินผลตอบแทนสํวน
                       เพิ่มจากการจัดเก็บข๎าวเปลือกหอมมะลิไว๎รอขายหลังฤดูเก็บเกี่ยว จะพบวํา การจัดเก็บข๎าวไว๎รอราคาจะท าให๎

                                                                                                        39
   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72