Page 69 -
P. 69
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บทที่ 5
โครงการจ าน ายุ้งฉางต่อการตัดสินใจจัดเก็บข้าวหอมมะลิ
บทน า
โครงการสินเชื่อชะลอการขายข๎าวเปลือกนาปี (จ าน ายุ๎งฉาง) เป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อดูดซับปริมาณ
ข๎าวเปลือกไมํให๎ออกสูํตลาดในปริมาณมากเกินความต๎องการ ชํวยรักษาเสถียรภาพและยกระดับราคาข๎าวเปลือก
ในชํวงที่ผลผลิตออกสูํตลาดเป็นจ านวนมาก โดยเพิ่มทางเลือกให๎กับเกษตรกรในการเก็บรักษาและปรับปรุงคุณภาพ
ข๎าวเปลือกเพื่อรอราคา (ประชาชาติ, 2561) โครงการนี้เริ่มด าเนินการในปี 2557 โดยมีรูปแบบการด าเนินการคล๎าย
7
กับโครงการจ าน ายุ๎งฉาง ที่ ธ.ก.ส. เคยด าเนินการมาในอดีตกํอนที่จะมีนโยบายรับจ าน าข๎าว แตํการด าเนินนโยบาย
ท าควบคูํกับนโยบายเสริมอื่น เชํน มาตรการเพิ่มรายได๎ให๎แกํผู๎มีรายได๎น๎อยที่จํายเงินให๎ชาวนากลุํมเป้าหมายราว 3.4
ล๎านครัวเรือน ในอัตราไรํละ 1,000 บาท โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข๎าวและสร๎างมูลคําเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร
เป็นต๎น (Voice TV, 2561) การด าเนินโครงการสินเชื่อชะลอขายข๎าวเปลือกนาปี (จ าน ายุ๎งฉาง) ในปีแรกเริ่มจาก
ฤดูกาลการผลิต 2557/58 วงเงิน 25,740 ล๎านบาท เป็นสินเชื่อเพื่อชํวยเหลือเกษตรกรในชํวงที่ผลผลิตออกมา
ปริมาณมากและมีราคาตกต่ า เพื่อให๎เกษตรกรมีทางเลือกในการชะลอการขาย โดยไมํต๎องกังวลกับปัญหาเงินที่จะ
น ามาใช๎จํายในครัวเรือนและภาระหนี้สิน สามารถน าผลผลิต คือ ข๎าวเปลือกหอมมะลิและข๎าวเปลือกเหนียวมาขอกู๎
กับ ธ.ก.ส.. อัตรา 90% ของราคาตลาด จากเดิมอัตรา 80% ตามมติของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการ
ข๎าว (นบข.) วงเงินไมํเกินรายละ 300,000 บาท โดยไมํเสียดอกเบี้ย และเพิ่มให๎อีกตันละ 1,000 บาท ให๎กับชาวนาที่
เก็บข๎าวไว๎ในยุ๎งฉางเกิน 30 วัน เพื่อเป็นแรงจูงใจให๎ชะลอการขายข๎าวในชํวงฤดูเก็บเกี่ยวไมํให๎เข๎าสูํตลาด เพื่อพยุง
ราคาไมํให๎ตกต่ า (มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน, 2557) และเกษตรกรต๎องช าระคืนเงินกู๎ภายใน 4 เดือนนับจากเดือนที่รับ
เงินกู๎ เป้าหมายการรับจ าน ายุ๎งฉางในปีดังกลําว คือ 1.5 ล๎านตัน กรอบงบประมาณ 17,280 ล๎านบาท ซึ่งผลการ
ด าเนินงาน พบวํา มีการจํายสินเชื่อแกํเกษตรกร 79,438 ราย ปริมาณข๎าว 474,932.52 ตัน เป็นจ านวนเงิน
6,731.58 ล๎านบาท (ประชาชาติ, 2561) หรือคิดเป็น 3.28% ของผลผลิตข๎าวหอมมะลิและข๎าวเหนียวในปีการผลิต
8
2557/58 ในปีการผลิตตํอมามีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การด าเนินงานของโครงการเล็กน๎อย (ตารางที่ 5.1) และ
โครงการดังกลําวด าเนินการมาอยํางตํอเนื่องจนกระทั่งในปีปัจจุบัน แม๎วําจะเพิ่มแรงจูงใจในการเข๎ารํวมโครงการฯ
โดยในปีการผลิต 2560/61 เกษตรกรที่เข๎ารํวมโครงการจะได๎รับคําเก็บรักษาข๎าวเปลือกในยุ๎งฉางอีก 1,500 บาทตํอ
ตัน (กรมการค๎าภายใน, 2560) แตํจ านวนเกษตกรที่เข๎ารํวมโครงการฯ ยังไมํได๎ตามเป้าหมาย (ผลผลิตเป้าหมาย
เทํากับ 2 ล๎านตัน) และยังมีสัดสํวนที่น๎อยเมื่อเทียบกับผลผลิตข๎าวที่ออกสูํตลาด (ตารางที่ 5.1)
การที่มีปริมาณข๎าวเข๎าสูํโครงการฯ ในปริมาณน๎อยท าให๎ไมํสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯใน
การที่จะดึงอุปทานข๎าวออกจากตลาดในชํวงฤดูเก็บเกี่ยวที่ราคาต่ า เพราะอุปทานข๎าวที่ลดลงไมํมากพอที่จะสํงผล
กระทบตํอการเปลี่ยนแปลงราคา (Paopongsakorn, 2011) ดังนั้นการเพิ่มปริมาณข๎าวที่เข๎ารํวมโครงการฯ ให๎ได๎
ตามเป้าหมายจึงเป็นแนวทางที่จ าเป็นเพื่อลดอุปทานข๎าวเปลือกและสร๎างเสถียรภาพราคาข๎าวหอมมะลิในชํวงฤดู
เก็บเกี่ยวตามเป้าหมายที่ก าหนด ดังนั้นในบทนี้จะน าเสนอข๎อมูลของเกษตรกรในพื้นที่ศึกษาจ าแนกตามกลุํมที่เข๎า
โครงการจ าน ายุ๎งฉางและกลุํมที่ไมํได๎เข๎ารํวมโครงการฯ รวมทั้งวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลตํอการตัดสินใจเข๎ารํวม
7
มาตรการรับจ าน าข๎าวเปลือกในชํวงปี 2544-52 เป็นนโยบาย ที่มีลักษณะคล๎ายการประกันราคาข๎าวซึ่งรัฐบาลก าหนดราคาเป้าหมาย
ให๎สูงกวําราคาตลาดและเพิ่มเป้าหมายการรับจ าน า และใช๎โรงสี/โกดังเอกชนเข๎ามาเป็นกลไกส าคัญในกระบวนการรับจ าน า รัฐบาลยุติ
การด าเนินโครงการรับจ าน าข๎าวสารและเปิดให๎ด าเนินการรับจ าน าข๎าวเปลือกนาปรังเป็นครั้งแรก ก าหนดเป้าหมายการรับจ าน าไว๎ 2.5
ล๎านตันเริ่มรับจ าน าข๎าวนาปรัง รูปแบบปรับเป็นการรับจ าน าใบประทวนสินค๎าโดยมีโรงสีที่เข๎ารํวมโครงการฯ ท าหน๎าที่รับฝาก
ข๎าวเปลือก ก าหนดเงื่อนไขให๎สามารถน าข๎าวเปลือกที่รับฝากไว๎ไปสีแปรสภาพเป็นข๎าวสารและน าสํงโกดังกลางที่เข๎ารํวมโครงการกับ ธ.
ก.ส. และ องค์การคลังสินค๎า (อคส.) ซึ่งการรับจ าน าด๎วยราคาเป้าหมายที่สูงกวําราคาตลาด ให๎วงเงินกู๎เป็น 100% ของราคาเป้าหมาย
และเพิ่มเป้าหมายการรับจ าน าเป็น 8.7 ล๎านตัน เป็นผลให๎ปริมาณข๎าวเปลือกเข๎าสูํโครงการรับจ าน ามากถึง 4.3 ล๎านตัน ในปีการผลิต
2554/55 และ 9 ล๎านตัน ในปี 2545/46 (สมพร, 2555)
8 ปีการผลิต 2557/58 ผลผลิตข๎าวหอมมะลิ (ขาวดอกมะลิ 105 และ กข15) เทํากับ 8,728,478 ตัน และข๎าวเหนียว 5,774,849 ตัน