Page 75 -
P. 75
60
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
60
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
240
240
ൌ
=
× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
400
(20)
× ×240เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์
2
2 2
หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคส
1ค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
2แควร์มี
1์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห
1 1
ൌ
2
2
[ (130)− (110)]
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห
∴ ็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
60
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรั
( − )บปรุงพันธุ์
(1)
2
] − N ส่วนค่า m , m , m และ m มีค่าเท่ากับ
1
a
ൌ
จากสูตรที่ 1
n
2
i
2
= ∑ [
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
i
4
1
2
3
(n−1)
m i N
4
× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
2
2
2 2
2
เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร
2
(70) +(60) +(60) +(50)
] − N ส่วนค่า m , m , m และ m มีค่าเท่ากับ
1
จากสูตรที่ 1
a
2
2
n
i
m i Nร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแคว
ൌ (
= ∑ [
) −240 4
3
2
i
(1)
1
1
(n−1)
1
4
ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า
(240)
4
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแค
(1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 วร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้
14,600
2
2
2
2
) −240 = 243.33 − 240 = 3.33
ൌ ( (70) +(60) +(60) +(50)
2
ൌ (
) −240
60
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะ
aabb เป็นดังนี้
(1)
1
60
4
240
240
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
ൌ
ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
(240) =
-1
-1
50
1
14,600
400
(20)
2
) −240 = 243.33 − 240 = 3.33
2
60 , m , m และ m มีค่าเท่ากับ
1
ൌ ( a
จากสูตรที่ 1
n
2
i
1
= ∑ [
60
-1
1 60 ] − N ส่วนค่า m
-1
aaBb
2 2
× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
4
3
i
1
× ×240
(n−1)
m i N
4
1 1
2 ൌ
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2
Aabb
-1
2
-1
หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
[ (130)− (110)]
ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
2
Linkage คนละโครโมโซม
1
1
2
2
2
1
1
AaBb
1
70
2
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
ൌ (
2 (1)
orthogonal (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
ൌ
ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 พันธุศาสตร์ประชากร Locus A (70) +(60) +(60) +(50) ) −240 จีโนไทป์
(1)
2
( − )
(240)
Locus B
∴
1
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
orthogonal
240
240
4
จ านวนต้น
ൌ
=
จีโนไทป์
คนละโครโมโซม 68 สำาหรับการปรับปรุงพันธุ์ 400 2 2 2 2 = 243.33 − 240 = 3.33 เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร Linkage
จ านวนต้น
14,600
(20)
ൌ (
2 Locus A
1
2
) −240 ××240
n ส่วน a 1
จากสูตรที่ 1 (n−1) = ∑ [ m i N 2 ] − N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3 และ m 4 มีค่าเท่ากับ
a i 1 1
คนละโครโมโซม
4
ൌ
AaBb เมื่อมีการผสมแบบสุ่ม n ชั่ว จะได้ 1 1 1 [ (130)− (110)] orthogonal 1 ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่ 1
70
Locus B ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ
60 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า
i 1 2
ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
2
จีโนไทป์ จ านวนต้น d = 2 ൌ ( (70) +(60) +(60) +(50) ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน = 2 240 2 (1) ൌ 2 2 จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้
-1 ge
Locus A
60
240
Aabb
-1
n
60ต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีน 1 3 n-1 (20) ( 2 ൌ 1 4 (240) ∴ Locus B Linka
1
2
d − 400
(1) )
) −240 (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1
AaBb 60 70 60 = ) −240 = 243.33 − 240 = 3.33 ൌ ( 14,600 d เมื่อ n ∞ จะมีค่า d เข้าใกล้ 0 -1 1
1 1
-1 1
aaBb
n 2 2
14,600 ൌ ( × ×240
คนละโครโมโซม -1 พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ 50 n aabb
1 1 1
-1
1
ൌ
ൌ ( -1 1
2
2
Aabb -1 1 ) −240 50 60 × aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
aabb
1 -1
) −240 = 243.33 − 240 = 3.33 เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร
3 60 0 [ (130)− (110)]
(70) +(60) +(60) +(50) ความถี่ของเซลล์สืบพันธุ์จะเปลี่ยนจากชั่วหนึ่งไปยังอีกชั่วหนึ่ง แต่ความถี่ของยีนจะคงที่
4 2
1
1
2
(240)
ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
-1 -1 ก าหนดให้ m 1 และ m 2
60
-1
aaBb
1
60
1
aaBb
(1) และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า
2
(1)
(1)
2
2
4ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1
2
(n−1) + y = p จากตรงนี้สามารถเขียนอัตราส่วนของเซลล์สืบพันธุ์
ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
จีโนไทป์ 1 -1 อยู่เสมอ เช่น x + y = x + y 2 1 1 -1 m i N = … = x n ( − ) ൌ orthogonal จากสูตรที่ 1 n 1 จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้ AaBb Aabb -1
60
ข้อสังเกต -1
2
จ านวนต้น หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
∴
1
Locus A
Locus B
Linka
1 aabb
-1
50
70
คนละโครโมโซม
1
i
ในรูปของความถี่ของยีนและ d ได้ดังนี้
จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้ 1 ge
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
= ∑ [
a i
2
n
] − N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3 และ m 4 มีค่าเท่ากับ
1 : 1
(1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1
70 1 2 -1 Locus A จ านวนต้น จีโนไทป์ เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร 1
Linkage
Locus B
60
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
(1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 50 orthogonal เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
y - xz
2
=
2
d พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
ก าหนดให้ m และ m และมีค่าเท่ากับ ส่วน a มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a มีค่า
1
1 ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2
aabb
1
-1
-1
orthogonal
AaBb มีค่า
1
Aabb 1 1 60 2 จ านวนต้น -1 2 1 1 60 aaBb 2 -1
Locus B
Locus A
2
จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้ Linkage 1
d
] − N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3 และ m 4 มีค่าเท่ากับ
2
-1
หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร จากสูตรที่ 1
n
(n−1) : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
2
a i
= ∑ [
จีโนไทป์ ็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห
จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้
aaBb -1 60 × aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb i m i N 1 1 Aabb (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 1 -1 1 4
-1
AaBb
70
คนละโครโม
-1 โซม
=
y - pq
d
= 1
-1
y - (p - y)(q - y) 60
1
ก าหนดให้ m และ m และมีค่าเท่ากับ ส่วน a มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a มีค่า -1
หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
Aabb
-1
60
ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
-1
1
2
2
1
2
2
(70)
1
70
1
1
AaBb
2 2
pq + d
=
ൌ (
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
∴ น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
2
เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูต 60 ( − ) -1 2 aabb ) −240 -1
(1)
× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
1
-1
60
1
n
f(Aa) = y ൌ
aaBb ร n
1 -1
2 50
1 +(60) +(60) +(50) ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน 1
-1
(1)
4
50 Locus B
aabb Linkage
Locus A
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
(1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 ) −240 = 243.33 − 240 = 3.33 2 60 1 n -1 ) −240 = 243.33 − 240 = 3.33 1
aabb
pq + d
จีโนไทป์
(240) จ านวนต้น
-1
60
aaBb
1
-1
-1
× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
orthogonal
1
0
1
14,600 ൌ (
60
[ (130)− (110)]
ൌ ( 14,600
∴ บ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้
( − )
-1
50 = 1
-1
2
= 1เดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05
(1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 1 , m 2 , m 3 และ m 4 มีค่าเท่ากับ พบว่า มีค่า
2
จะเห็นได้ว่ามีการแ หาค่าไคสแควร์แบบวิธี 2 4 = ∑ [ n a 2 3 60 60 Aabb คนละโครโมโซม 1
ൌ จากสูตรที่ 1
n
p - y i
] − N ส่วนค่า m
1
(1) n บด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
i
(n−1)
× ×240
1
(1)
4
AaBb
1
2 (240) 1
f(AA) = x ൌ ) −240
70
1
2 2
ൌ (
=
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บน
จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้ คนละโครโมโซม
ก าหนดให้ m และ m และมีค่าเท่ากับ 1 Locus A p - (d + pq) ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
2
1 ส่วน a มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a มีค่า
m i N (70) +(60) +(60) +(50)
2
2
ท าการตรวจสอ 22
n
1
2
1 ต าแหน่ง A เป็น 2 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
2
2
2
1 2
Locus B
2
2
Linkage
2
400 2
2
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่น
ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า
1
) −240
จ านวนต้น
จีโนไทป์
2
p=
m i N
1
4
เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร ครโมโซม = ൌ (1)เอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
(n−1)
ൌ
คนละโ
i
- d 2 n
(240)
(20) (130)− (110)] (70) +(60) +(60) +(50) ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
2
[orthogonal
1 1
= ∑ [
a i
2
n
240
240 × ×240 n 4
จากสูตรที่ 1
1
2 ൌ ( ] −N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3 และ m 4 มีค่าเท่ากับ
เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร 2 1 a i 2 ] − N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3 และ m 4 1
p
2 2
- d ) −240 = 243.33 − 240 = 3.33 มีค่าเท่ากับ
= จากสูตรที่ 1
60
2
n
3 60 N 0
= ∑
orthogonal
14,600 ൌ (
i
คนละโครโมโซม
(n−1)
) −240 = 243.33 − 240 = 3.33
2
(20)
จ านวนต้น
ൌ ([ 14,600
q - y
( − )
∴ จีโนไทป์ ∴ = = 2 400 m i ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่ เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้ 4
f(aa) = z ൌ
4
n
(240)
(1) ) −240 ൌ n 240 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต 1 ൌ Locus B Linkage
วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
Locus A 2
(70) +(60) +(60) +(50)
( − ) (1)
ท าการตรวจสอบด้ 2
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ
2าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
ൌ (
2
=
AaBb 2 (1)240 +(60)+(60) +(50) กับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า 2 70 1 q - (d + pq) 2 2 ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน 1 2 1 1 1
ൌ (
(70)
(1)
2
2
n
ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
(240)
1
1
1
2
[ (130)− (110)] 4
2
i n
) −240 หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่า
4 Aabb 2 N - d 2 (n−1) 1 -1 -1
m
1 มีค่าเท่ากับ คนละโครโมโซม = ൌ 260 ) −240 = 243.33 − 240 = 3.33 ൌ 2 1 n × ×240 ) −240 = 243.33 − 240 = 3.33
[ (130)− (110)] i 60
1 1
2 ,m 2 , m 3 และ m 4
] − N ส่วนค่า m 1
0
q 1 1
14,600= ∑ [
a i
ൌ (
2
× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
× ×240
จากสูตรที่ 1
aaBb 2 2 60 ൌ ( 14,600 2 2 2 3 60 -1 1 -1
2
จาก x , y , z เมื่อ n ∞ ความถี่ของเซลล์สืบพันธุ์ที่สมดุลจะกลายเป็น p AA + 2pq Aa + q aa
2
2
4
(20)
orthogonal
-1
(240)
1
50
-1
ท าการตรวจสอบด้วยวิธี orthogonal จะทดสอบสมมติฐานดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีน
ൌ +(60) +(60) +(50) n
aabb n
n
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ 1
2
(1)
) −240
400
ൌ (
400เอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
เดียวกันหรือไม่มี linkage นั่น
60
=
ൌ จ านวนต้น 240 = (70) 240 2
ซึ่งค่า d = y - xz เป็นดัชนีของความเบี่ยงเบนไปจากสภาพสมดุล จะมีค่าลดลง 2 ใน 3 ของทุกๆ ชั่ว
2
Locus B
2
Locus A
(20)22
Linkage
2
ต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่
(1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1
240
240
น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห
จีโนไทป์ ็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
1
70
1
1
AaBb
4
m i N
ของการแต่งงานแบบสุ่ม การเข้าสู่สภาพสมดุลของ autopolyploids จึงค่อนข้างเร็วและอัตราส่วนของ
คนละโครโมโซม
(n−1)
i
จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้
= ∑ [
a i
2
n
จากสูตรที่ 1
1
] − N ส่วนค่า m 1 , m 2 , m 3 และ m 4 มีค่าเท่ากับ
หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
2
60
-1
Aabb
-1
1
ทั้งไซโกตและเซลล์สืบพันธุ์ในสภาพสมดุลจะถูกก�าหนดโดยความถี่ของยีนในประชากรเท่านั้น
ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า
orthogonal
× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์
-1
-1
60
1
aaBb
จ านวนต้น
2
เดียวกันหรือไม่มี link
1age นั่นเอง เมื่อท าการวิเคราะห์แบบ orthogonal จะเป็นดังนี้
เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร Locus A Locus B Linkage
aabb 50 -1 พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ 60 น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห -1 1
จีโนไทป์ ็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่งอยู่บนคนละโครโมโซม
AaBb 70 1 หาค่าไคสแควร์แบบวิธีเดิม พบค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า 1 1
(1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1
∴
( − )
2
Aabb 60 (1) : aaBb : aabb เท่ากับ 70 : 60 : 60 : 50 ต้น เมื่อท าการวิเคราะห์ ൌ 1 -1 -1
จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้
× aabb ได้ลูกที่มีจีโนไทป์ AaBb : Aabb
-1
aaBb 60 [ (130)− (110)] 2 1 -1
1
1
1 1 ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า
2
ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ 2 1
ൌ
2 -1
aabb 50 × ×240 พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ 60 -1 1
เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร 2 2 2
400
(20)
=
(1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1
ൌ
จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม สามารถที่จะใช้สูตรที่ 2 ในการค านวณได้ดังนี้
240
240
( − )
∴
2
ൌ
(1)
ก าหนดให้ m 1 และ m 2 และมีค่าเท่ากับ ส่วน a 1 มีค่าเท่ากับ 70+60 = 130 และ a 2 มีค่า
1
1 1 2 2
[ (130)− (110)]
เท่ากับ 50+60 = 110 แทนค่าสูตร 2 2
ൌ
1 1
× ×240
2 2
(20) − )
∴ 2 ( 2 400
(1) ൌ ൌ =
240
240
1 1
[ (130)− (110)] 2
ൌ 2 1 1 2
× ×240
2 2
2
(20) 400
ൌ =
240 240