Page 91 -
P. 91
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
85
3.โรคใบจุดลาย
ลักษณะอาการ :
อาการปรากฏบนใบในระยะเริ่มแรกเป็นโรค จะเห็นเป็นจุดสีนํ้าตาลขนาดเท่าจุดปลาย
ดินสอดํา ต่อมาจุดนี้จะขยายใหญ่เท่าหัวเข็มหมุดขนาดใหญ่ เกิดต่อกันไปตามเส้นใบจนกลายเป็นขีดสี
นํ้าตาลคล้ายสนิมเหล็กขีด อาจติดต่อกันไปหรืออาจไม่ต่อเนื่องกัน ขอบของขีดไม่คมชัดเมื่อเป็นโรคมาก
ขึ้นส่วนที่ถูกทําลายจะเป็นลักษณะเกิดอยู่เป็นกลุ่ม โดยขีดสีนํ้าตาลเกิดติดต่อกัน เรียงซ้อนกันหรือเป็นรอยสี
นํ้าตาลคล้ายสนิมเหล็ก เมื่อเป็นรุนแรงทําให้ใบไหม้ ตรงกลางแผลจะแห้งเป็นสีนํ้าตาลอ่อนขอบรอบนอก
จะเป็นสีเหลืองชัดเจนเมื่อเป็นมากใบจะแห้งตายทั้งต้น
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
เกิดจากเชื้อรา Cladosporium musae โรคระบาดในปลายฤดูฝนและต้นฤดูหนาวที่มี
ความชุ่มชื้นพอเหมาะ เชื้อราจะแพร่ระบาดโดยมีสปอร์ปลิวไปตามลม ใบล่างๆ จะเป็นโรคขึ้นไปจนถึงใบ
ยอด
การป้องกันและกําจัด :
ใบที่เป็นโรคใบล่างๆ ให้ตัดออกไปเผาไฟทําลายเสีย แล้วพ่นด้วยสารเคมี เช่น แมนโค
เซบ (ไดเทนเอ็ม-45) 48 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร ทุก 20 วัน สัก 2 ครั้ง
4. โรคแอนแทรคโนส
ลักษณะอาการ :
โรคนี้เป็นการเข้าทําลายที่ฐานของหวีกล้วย ทําให้เน่าเป็นสีนํ้าตาลดําลุกลามถึงขั้วและ
ก้านของผล เกิดไปจนถึงในระหว่างการตัดมาบรรจุหีบห่อและระหว่างการขนส่ง หรือจะกล่าวโดยทั่วไปก็
เป็นโรคภายหลังเก็บเกี่ยว เมื่อขั้วผลเกิดเน่าชํ้าเป็นสีนํ้าตาลดําแล้วก็จะลุกลามไปที่ผล เปลือกของผลจะเน่า
เป็นสีนํ้าตาลดํา ส่วนเนื้อเยื่อภายในของผลเกิดเน่าชํ้าเป็นสีนํ้าตาลเหลืองพบเป็นรุนแรงในกล้วยหอมทอง
กล้วยไข่ทําให้ได้รับความเสียหายมาก ซึ่งเป็นลักษณะของโรคแอนแทรคโนส เป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ เรียงวนกัน
อย่างต่อเนื่องบนแผลนั้นมีลักษณะเหมือนก้นหอย
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
เกิดจากเชื้อรา Colletotrichum musarum สปอร์เมื่อแก่เต็มที่ก็จะหลุดออกจากตุ่มนูนเล็ก
และยังสามารถฟุ้งกระจายแพร่ระบาดเข้าทําลายกล้วยผลอื่น ๆ ได้อีก กล้วยหวีอื่นที่กองอยู่ใกล้เคียงหรือใน
โรงเรือนที่เก็บกล้วยนั้นอาจเป็นโรคนี้หมดได้