Page 96 -
P. 96

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                       90


               12. โรคกาบขาว

                        ลักษณะอาการ :

                               เชื้อราจะเข้าทําลายรากและบริเวณเหง้าหรือลําต้นแท้ โดยเส้นใยของเชื้อราจะมาเกาะ

               รวมตัวกันมีลักษณะคล้ายเส้นด้ายหรือรากไม้  มีสีขาวหม่นหรือสีขาว เกิดอยู่บนผิวของส่วนดังกล่าวอย่าง
               เห็นได้ชัด เชื้อราจะสร้างรากเทียมเข้าไปไชชอนในเนื้อเยื่อทําให้เกิดมีอาการเน่า เมื่อโรคทวีความรุนแรง

               เชื้อราจะขยายการทําลายขึ้นไปสู่กาบของลําต้นเทียมเกิดปกคลุมอยู่บนกาบมีทั้งลักษณะเป็นเส้นด้ายสีขาว

               และเกิดต่อเนื่องกันเป็นผืนคล้ายผิวของกาบถูกฉาบด้วยสีขาว  กาบจะเริ่มเน่าเป็นสีนํ้าตาล และกาบจะค่อย ๆ
               แห้งไปทีละกาบ ทําให้ลําต้นเทียมมีขนาดเล็กลง ชะงักการเจริญเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ไม่ผลิดอกออกผล

               เมื่ออุณหภูมิและความชื้นเหมาะสม เชื้อราก็จะเจริญออกเป็นดอกเห็ดสีขาวหม่นปนสีชมพู ขนาดดอกเห็ด

               ประมาณ 1-3×2-3 นิ้ว ดอกเห็ดค่อนข้างอ่อนนุ่ม ด้านใต้ของดอกจะมีลักษณะเป็นครีบซึ่งเป็นที่เกิดของ
               สปอร์ ถ้าเกิดเป็นโรคในระยะหน่อเล็ก ๆ กล้วยจะเน่าที่กาบโดยรอบไม่แตกใบในที่สุดจะตายไป

                        สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :

                               เกิดจากเชื้อรา  Marasmius  semiustus  มีสปอร์  basidiospores  เกิดอยู่ที่ครีบบนผิวด้านใต้

               ของดอกเห็ด เมื่อแก่ก็จะร่วงหล่นลงสู่พื้นดินและถูกนํ้าชะพัดพาไป  หรือติดไปกับหน่อกล้วยที่นําไปปลูก
                        การป้องกันและกําจัด :

                               ตัดส่วนที่เป็นโรคออกไปเผาไฟทําลายเสีย แล้วพ่นด้วยสารเคมี เช่น คอปเปอร์ออกซีคลอ

               ไรด์ 48 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร


               13. โรคซิกาโตก้าสีดํา

                        ลักษณะอาการ :

                               ในระยะแรกใบจะเกิดเป็นจุดเล็ก ๆ เท่าปลายเข็มหมุด สีนํ้าตาลแดง จุดจะขยายใหญ่เป็น

               ขีดยาว สีนํ้าตาลดํา ขนาดประมาณ 1.2×6.10 ซม. แผลจะเชื่อมติดต่อกันเป็นแผลใหญ่ และมีขอบแผลเดิมมา

               เชื่อมต่อกันอย่างเห็นได้ชัด  หากเป็นโรครุนแรง หวีและเครือจะมีขนาดเล็ก  แต่ถ้าเกิดโรคในระยะต้นอ่อนก็
               จะชะงักการเจริญ แคระแกร็น โรคจะลดลงเมื่อเข้าสู่หน้าหนาว โรคนี้มีระบาดมากในแอฟริกา และอเมริกา

               กลาง

                        สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
                               เกิดจากการทําลายของเชื้อรา  Cercospora fijiensis  var.  diformis   (Paracercospora

               fijiensis)  มี  conidia  เกิดกลางแผล และมี  perfect  stage  เป็น  Mycosphaerella  fijiensis  var. difformis

               เกิด  ascospore  ใน  ascus  ฝังในเนื้อเยื่อของใบ
   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101