Page 33 -
P. 33
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
27
3
องุ่น
องุ่น (Vitis vinifera) เป็นไม้เลื้อยที่ต้องอาศัยขึ้นค้าง มีผลออกเป็นช่อส่วนมากใช้รับประทานสด
และพันธ์ที่นิยมปลูกในปัจจุบันอยู่สองพันธุ์คือ พันธุ์คาดินัล และพันธุ์ไวท์มะละกา นอกจากนี้ พันธุ์องุ่นได้
พัฒนาขึ้นมากพันธุ์ สําหรับองุ่นทําเหล้าหรือไวน์เริ่มนํามาปลูกหลายพันธุ์ขึ้นได้ดีในประเทศไทย ในการทํา
สวนองุ่นของเกษตรกรที่จังหวัดนครปฐม สมุทรสงคราม และราชบุรี หรือแถบสวนฝั่งธนบุรีในกรุงเทพฯ
ปัจจุบันทําสวนองุ่นกันเพิ่มมากขึ้นและได้ผลดีมาก ลักษณะการทําสวนองุ่นโดยทั่วไปจะปลูกแบบยกร่อง
เหมือนกับการปลูกผัก วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการช่วยระบายนํ้า ไม่ให้มีนํ้าขังโดยรอบเพราะในบ้านเรา ที่ทํา
การปลูกองุ่น มักจะเป็นที่ราบเสียเป็นส่วนใหญ่และที่ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ตาม บางแหล่ง
ก็ต้องปรับปรุง บํารุงดินให้มีความสมบูรณ์ โดยเฉพาะที่ดอน หรือที่บริเวณแห้งแล้ง ถ้าดินไม่อุดมสมบูรณ์
มากพอ ก็จะมีผลต่อการเจริญและผลิดอกออกผล หรือให้ผลผลิตตํ่า ฉะนั้นการหาทําเลปลูกองุ่นจึงต้อง
พิถีพิถันค่อนข้างมาก และปรับปรุงบํารุงดินให้อุดมสมบูรณ์พร้อมทั้งให้ความชื้นอย่างเหมาะสม ปัจจุบันมี
การเกษตรกรนิยมปลูกองุ่นกันอย่างแพร่หลาย ทั้งชนิดมีเมล็ดและไม่มีเมล็ด ที่ใช้บริโภคสด ซึ่ง
นอกเหนือจากปลูกเพื่อเอาผลผลิตป้อนโรงงานแปรรูป อย่างไรก็ตามองุ่นในตลาดก็มีองุ่นจากต่างประเทศ
ส่งเข้ามาจําหน่ายกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็นับว่าโชคดีของเกษตรการไทยอยู่บ้างที่ในปัจจุบันได้มี
โรงงานผลิตไวน์ขึ้นในประเทศไทยที่ใช้ผลองุ่นเป็นวัตถุดิบ จึงนับได้ว่าเป็นโอกาสดีของเกษตรกรที่มีตลาด
รองรับเป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาในการหาตลาดจําหน่ายผลผลิตอีกต่อไป อุปสรรคในการปลูกองุ่นมีโรคต่าง ๆ
ดังนี้
1. โรครานํ้าค้าง
ลักษณะอาการ :
ลักษณะอาการบนใบอ่อนเริ่มเป็นจะเห็นเป็นจุดสีเหลือง ถ้าส่องกับแสงจะเห็นชัดเมื่อ
เป็นมากขึ้นจุดที่ถูกทําลายจะพบขุยสีขาวของเชื้อราเจริญขึ้นอยู่ด้านใต้ใบเมื่อใบแก่ขึ้นขุยขาว ๆ หลุดไป เกิด
เป็นแผลแห้งสีนํ้าตาล โดยมากเป็นกับใบอ่อนแล้วใบอ่อนจะร่วงไป ขนาดของแผลที่เป็นโรคไม่แน่นอน
อาการบนช่อดอกมีขุยของเชื้อราอยู่บนแผลของช่อ ทําให้ดอกร่วงช่อดอกแห้ง ถ้าเป็นกับผลที่มีขนาดใหญ่
การทําลายก็จะทําให้ผิวกร้านหรือกระ ทําให้ผู้บริโภคผลสดไม่ต้องการจึงนับได้เป็นผลเสียหายต่อผลผลิต
มาก และเป็นโรคที่มีการทําลายที่ร้ายแรงขยายการทําลายอย่างรวดเร็วจึงจําเป็นต้องดูแลอย่างสมํ่าเสมอ