Page 36 -
P. 36
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
30
5. โรครากปม
ลักษณะอาการ :
ไส้เดือนฝอยตัวอ่อนจะเข้าทําลายรากฝอย และทําให้ไส้เดือนฝอยที่เข้าไปฝังตัวอยู่ในราก
และขับถ่ายสารเคมีที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโตออกมา และก่อให้เกิดการแบ่งตัวของเซลล์และขยายตัวของ
เนื้อเยื่อของรากบริเวณนั้น เกิดบวมออกมีลักษณะเหมือนปม เกิดต่อเนื่องกันไปรากที่เป็นปมไม่สามารถดูด
นํ้าอาหารส่งไปเลี้ยงลําต้นได้ ฉะนั้นอาการบนผิวดินคือใบจะเหลืองซีด ต้นแคระชะงักการเจริญเติบโต
ผลผลิตลดลงอย่างเห็นได้ เมื่อผ่าปมรากดูจะพบตัวไส้เดือนฝอยเพศเมียขนาดเท่าลายเข็มหมุด ลักษณะเป็น
ถุงหรือหยดนํ้าสะท้อนแสงใส ฝังตัวอยู่และบริเวณปากแผลก็มีกลุ่มของไข่ไส้เดือนฝอยเกิดอยู่ แล้วจะฟัก
ออกเป็นตัวอ่อนแพร่ระบาดต่อไป จึงเป็นปัญหาที่สําคัญมากต่อการเพิ่มผลผลิต
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
เกิดจากไส้เดือนฝอยรากปม Meloidogyne incognita M.javanica โรคนี้จะแพร่
ระบาดได้มากเมื่อมีความชื้นในดินสูง นํ้าเป็นพาหะนําไส้เดือนฝอยไปแพร่ระบาดสู่ต้นอื่นได้อย่างสําคัญยิ่ง
หรือติดไปกับยอดพันธุ์ที่นําไปปลูก
การป้องกันและกําจัด :
เมื่อพบว่ามีโรคนี้เริ่มระบาดในสวนองุ่น ก็ควรใช้สารเคมี เช่น คาร์โบฟูราน 20 กรัม ใส่
คลุกดินที่โคนต้นทุก 2 เดือน หรือใช้ โมแคบ รักบี้ ไวเดท แทนก็ได้ โดยเฉพาะในช่วงตัดแต่งกิ่ง
6. โรคเน่าดํา
ลักษณะอาการ :
ใบจะเกิดเป็นจุดสีเทาขอบสีดําเข้มและรอบขอบสีดําจะมีสีเหลืองล้อมรอบตรงกลางแผล
จะแห้ง และมีตุ่มนูนสีดํา ขนาดเท่าหัวเข็มหมุดเกิดกระจายอยู่ทั่วไป โรคนี้เมื่อเข้าทําลายผลมักจะเป็นระยะ
ผลใกล้แก่เต็มที่แล้ว ระยะแรกจะเป็นจุดสีขาวแล้วขยายใหญ่ที่ขอบสีนํ้าตาลเข้ม ทําให้เห็นเหมือนตานก
บางครั้งอาการโรคจะรุนแรงเน่าทั้งผล ผิวเหี่ยวย่น จะเน่าและแห้งเป็นสีดําและยังอาจติดอยู่กับช่อบนต้นนั้น
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
เกิดจากการที่เชื้อรา Phyllosticta ampelopsidis (Guignardia bidwellii) แพร่ระบาด ที่
สําคัญคือ นํ้าเป็นพาหะในการนําสปอร์ของเชื้อโรคไปสู่สวนหรือต้นอื่นต่อไป หรือปลิวไปตามลมแพร่
ระบาดไปทั่วบริเวณปลูก
การป้องกันและกําจัด :
ก่อนอื่นต้องตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคออกไป เผาไฟทําลายเสีย แล้วพ่นด้วยสารเคมี เช่น
เบโนมีล 10 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร หรือ แคปตาโฟล 20 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร