Page 128 -
P. 128
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
122
พัด เมื่อโรคมีลักษณะอาการรุนแรงจะเกิดแผลดังกล่าวอยู่ทั่วใบ ใบจะแห้งและเกิดฉีกขาดอยู่เป็นแห่ง ๆ บน
พื้นแผลจะมีกลุ่มของเชื้อราเจริญขึ้นอยู่เป็นกลุ่ม ๆ กระจายอยู่ทั่วแผล ทําให้แลเห็นเป็นสีเทาดํา ถ้าเป็นมาก
จะทําให้ชะงักการเจริญเติบโต ผลิดอกออกผลน้อยหรือไม่ดกเท่าที่ควร
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
เกิดจากเชื้อรา Helminthosporium rostratum สปอร์ conidia ที่เกิดอยู่ผิวของแผล
เหล่านั้นเมื่อแก่จะปลิวไปแพร่ระบาดสู่ต้นอื่น นอกจากลมเป็นพาหะนําเชื้อโรคไปแล้วนํ้าก็มีความสําคัญ
เช่นกัน
การป้องกันและกําจัด :
เมื่อพบว่าโรคนี้เริ่มมีการแพร่ระบาดเข้าทําลาย ก็ต้องพ่นด้วยสารเคมี เช่น โปรปิเนบ 30
กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร ให้ทั่ว ใบที่ร่วงหล่นต้องเก็บออกเผาไฟเสีย
11. โรคจุดวงแหวน
ลักษณะอาการ :
โรคนี้จะเกิดเป็นกับมะละกอทุกพันธุ์ โดยจะเกิดมีลักษณะอาการใบมีสีซีดเหลือง เส้นใบ
หยาบหนาขึ้น ต่อมาก็จะแสดงอาการใบด่างสีเขียวเข้มสลับสีเขียวอ่อน ใบมีขนาดเล็กบิดเบี้ยว รูปร่าง
ผิดปกติ ผิวใบเป็นคลื่น ถ้ามะละกอได้รับเชื้อที่รุนแรงใบจะเรียวเล็ก เนื้อใบจะหดหายจะเหลือแต่เส้นใบ ทํา
ให้แลเห็นมีลักษณะเป็นเส้นบนก้านใบและลําต้นเกิดขีดสีเขียวเข้มทั่วไป ต้นที่ได้รับเชื้อตั้งแต่ระยะยังเป็น
ต้นอ่อน ต้นจะแคระแกร็น ใบแก่อาจร่วงหมดจนเหลือแต่ใบยอด ผิวของผลจะเกิดเป็นรอยวงกลมเหมือน
วงแหวนแห้งเป็นสีนํ้าตาลอ่อนหรือสีขาวนวล เกิดกระจายไป
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
โรคนี้เกิดจากเชื้อวิสา PRV ถ่ายทอดได้ดีโดยวิธีสัมผัส และถ่ายทอดได้ทางราก
นอกจากนี้ยังมีแมลงพวกเพลี้ยอ่อน Aphis gossypii และ A.craccivora เป็นพาหะนําเชื้อโรควิสาไปสู่ต้น
อื่น ๆ แต่เชื้อวิสาชนิดนี้ไม่สามารถถ่ายทอดผ่านทางเมล็ด นอกจากนี้ยังมีแตงโม แคนตาลูป แตงกวา
ฟักทอง นํ้าเต้า และแตงไท เป็นพืชอาศัยของเชื้อวิสาชนิดนี้ด้วย
การป้องกันและกําจัด :
ขุดต้นมะละกอและพืชอาศัยที่เป็นโรคนี้ออกเผาไปทําลายเสีย เมื่อพบว่ามีเพลี้ยอ่อนที่
ต้นมะละกอและพืชอาศัย ควรพ่นด้วยสารเคมี เช่น โอเมทโธเอท 30 ซีซีต่อนํ้า 20 ลิตร หรือ เซวิน-เอส 85
จํานวน 60 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร ใช้พ่นแทนก็ได้ผลเช่นเดียวกัน