Page 123 -
P. 123

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                      117


                        สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :

                               โรคใบด่างมีสาเหตุเกิดจากเชื้อวิสา ที่มีเป็นรูปท่อนยาว การถ่ายทอดโรคหรือติดโรคได้
               โดยการสัมผัส สําหรับมะละกอพันธุ์แขกดําจะแสดงอาการของโรคหลังจากได้รับเชื้อนี้ประมาณ 12-16 วัน

               นอกจากนั้นมีแมลงพาหะนําเชื้อวิสาไปสู่ต้นอื่นก็คือ เพลี้ยอ่อนถั่ว  (Aphis  craccivora)  และเพลี้ยอ่อนฝ้าย

               (A.gossypii)  โรคนี้ยังไม่พบว่ามีการถ่ายทอดโรคทางเมล็ด แต่เกิดแพร่ระบาดทําความเสียหายต่อมะละกอที่

               ปลูกอยู่ในแถบจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาก ซึ่งจําเป็นต้องโค่นทําลายจนหมดสิ้น แล้วจึงเริ่มปลูก
               กันใหม่ นับว่าเป็นปรากฏการณ์ในการแพร่ระบาดของโรคนี้มากที่สุด

                        การป้องกันและกําจัด :

                               เมื่อพบว่ามะละกอต้นใดเป็นโรคนี้จําเป็นอย่างยิ่งต้องโค่นทําลายทิ้งไปและถ้าตรวจพบว่า

               มีแมลงพวกเพลี้ยอ่อนเกิดแพร่ระบาดขึ้นในแปลงปลูก ก็ควรพ่นด้วยสารเคมี เช่น โอเมทโธเอท 40 ซีซี. ต่อ
               นํ้า 20 ลิตร หรือคาร์บาริล 60 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร



               2. โรคราแป้ง

                        ลักษณะอาการ :

                               อาการปรากฏบนใบและบนผลที่มีสีเขียว เกิดคราบฝุ่นสปอร์ของเชื้อราเป็นขุยสีขาว ๆ
               คล้ายแป้งที่บนใบ ก้านใบ และผล ใบอ่อนที่ถูกทําลายมากจะแห้งและร่วงหรือใบเสียรูป ยอดชะงักงัน ผลที่

               ยังอ่อนมากๆ ถ้าเป็นโรคนี้ก็จะร่วง ถ้าผลโตหน่อยผลจะร่วงหรืออาจจะเจริญเติบโตได้ต่อไปอีกแต่ผิวกร้าน

               และขรุขระ ส่วนที่ก้านนั้นมีแผลสีเทาจาง ๆ แผลจะมีลักษณะไม่แน่นอนอย่างไรก็ตาม ผลที่เป็นโรคเมื่อแก่
               เต็มที่จะมีผิวไม่สวย  ตลาดผู้บริโภคผลสดจะไม่ต้องการ จึงเป็นผลให้ได้ราคาตํ่ากว่าปกติ

                        สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :

                               โรคนี้มีสาเหตุเกิดจากเชื้อรา  Oidium   caricae   โดยเชื้อราจะสร้างสปอร์สีขาวเป็นผง
               คล้ายฝุ่น ปลิวตามลมแพร่ระบาดไปได้ไกล ๆ โรคนี้มักจะเกิดในฤดูฝนหรือต้นฤดูหนาว ซึ่งมีความชื้นน้อย

                        การป้องกันและกําจัด :

                               ควรพ่นด้วยสารป้องกันกําจัดโรคราเช่น เบโนมีล 10 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร หรือ ไดโนแคป

               20 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร


               3. โรคโคนเน่า

                        ลักษณะอาการ :

                               อาการของโรคพบทั้งที่รากและโคนลําต้นเป็นสีนํ้าตาลเน่า และส่งกลิ่นเหม็นเปรี้ยว

               อาการเน่าที่โคนต้นบริเวณระดับดิน แผลลุกลามขึ้น นอกจากนี้ลักษณะอาการของโรคจะปรากฏอาการที่ใบ
               ใบเหี่ยวและเหลือง ยืนต้นตายหรือล้มได้ง่ายที่สุด เพราะเมื่อโคนลําต้นเน่าก็หมายถึงภายในเนื้อเยื่อของลํา
   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127   128