Page 14 -
P. 14
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บทที่ 3
ระเบียบวิธีวิจัย
3.1 กรอบแนวคิดการวิจัย
กรอบแนวคิดที่นํามาประยุกตใชในการศึกษานี้มาจากงานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษาเกี่ยวกับบทบาท
ของตลาดเชาที่ดินตอเศรษฐกิจครัวเรือน เชน Deininger, Jin, and Nagarajan (2008) และ Jin and
Deininger (2009) และ Jin and Jayne (2013) และ Chamberlin and Ricker-Gilbert (2016)
งานวิจัยเหลานี้ตางก็มีพื้นฐานมาจากงานของ Skoufias (1995) ซึ่งมีสมมติฐานวาครัวเรือนสามารถมี
อรรถประโยชนสูงสุด (utility maximization) ไดจากการใชประโยชนที่ดิน (เชาปลอยเชา และทํากิน
เฉพาะบนที่ดินตนเอง) เพื่อใหขนาดฟารมที่แทจริง (actual farm size) กับขนาดฟารมที่ตองการ
(desired farm size) มีความแตกตางกันนอยที่สุด เมื่อใดก็ตามที่ขนาดฟารมที่แทจริงเทากับขนาดฟารมที่
ตองการถือวาครัวเรือนมีการใชที่ดินใหเกิดประสิทธิภาพสูงสุด แตในความเปนจริงพบวาการเชาหรือใหเชา
ที่ดินนั้นมีตนทุนแฝงและตนทุนทางธุรกรรม (transaction cost) ซึ่งสงผลใหสวนตางระหวางขนาดฟารมที่
ตองการกับขนาดฟารมที่แทจริงไมเทากับศูนย ขนาดฟารมที่ตองการและการตัดสินใจเชาหรือใหเชาที่ดิน
ไมไดขึ้นอยูกับขนาดการถือครองที่ดินเพียงอยางเดียวแตยังขึ้นอยูกับปริมาณทรัพยสินนอกเหนือจากที่ดิน
เชน ความสามารถในการผลิต แรงงานในครัวเรือน และคุณลักษณะทางเศรษฐกิจ สังคม และ
ประชากรศาสตรของครัวเรือน เปนตน
ในการศึกษานี้กําหนดใหการตัดสินใจเขารวมตลาดเชาที่ดินมีอยู 3 รูปแบบ ตามการนิยามของ
Jin and Jayne (2013) คือ การเชาที่ดิน (Rent-in regime) การทํากินเฉพาะบนที่ดินตนเองซึ่ง
หมายความวาครัวเรือนไมเชาหรือปลอยเชาที่ดิน (Autarky regime) และการปลอยเชาที่ดิน (Rent-out
regime) เงื่อนไขในการตัดสินใจเขารวมตลาดเชาที่ดินของครัวเรือนสามารถแสดงไดดังนี้
∗
รูปแบบที่ 1: เชาที่ดิน (A >A ):
MP(A ) + ε ≥ r + T
∗
รูปแบบที่ 2: ทํากินเฉพาะบนที่ดินตนเอง (A =A ):
r − T < MP(A ) + ε ≤ r + T [1]
∗
รูปแบบที่ 3: ปลอยเชาที่ดิน (A <A )
MP(A ) + ε ≤ r − T
∗
โดย A คือขนาดฟารมที่เหมาะสมที่สุดหรือขนาดฟารมที่ไดดุลยภาพของครัวเรือน i ในจังหวัด j
(Optimal operational land size) A คือขนาดที่ดินถือครองของครัวเรือนเกษตร (household's
land endowment) ซึ่งก็คือขนาดฟารมกอนมีการเชาหรือใหเชาที่ดิน คืออัตราคาเชาที่ดินในตลาดเชา
3-1