Page 13 -

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

การพูดถึงอยูเรื่อยๆ แตกลับไมปรากฎวามีการวิจัยลักษณะเชนเดียวกับงานวิจัยฉบับนี้ตองการนําเสนอเลย

งานวิจัยเชิงเศรษฐศาสตรดานที่ดินเกษตรสวนมากจะใหความสําคัญกับประเด็นดานสิทธิในการถือครอง
ที่ดิน ผลการปฏิรูปที่ดิน และความมั่นคงในการถือครองที่ดิน โดยเฉพาะอยางยิ่งในชวงหลังจาก ป พ.ศ.

2527 ที่ธนาคารโลก (World Bank) ไดใหการสนับสนุนทางการเงินกับรัฐบาลไทยเพื่อดําเนินการการ

สํารวจ ลงทะเบียน และออกเอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดินใหกับประชาชนทั่วประเทศ และสิทธิการถือ
ครอง (Feder, 1987; Feder et al., 1988a,b; Chalamwong and Feder, 1988a,b) แตหลังจากที่

โครงการความรวมมือระหวางรัฐบาลไทยกับธนาคารโลกสิ้นสุดลง งานวิจัยเกี่ยวกับนโยบายที่ดินและตลาด

ที่ดินในภาคเกษตรก็แทบไมคอยมีปรากฎ

ในปจจุบัน การศึกษาเกี่ยวกับตลาดเชาที่ดินที่พอมีปรากฎอยูบางไมไดเนนเรื่องบทบาทของตลาด

เชาที่ดินตอการพัฒนาเศรษกิจครัวเรือนเปนประเด็นหลัก ยกตัวเชน งานวิจัยของ Gine (2005) ซึ่งได
ประเมินความมั่นคงของการถือครองที่ดินของเกษตรกรที่ไดรับการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ซึ่งเปด

โอกาสใหประชาชนเขาทําประโยชนในเขตปฎิรูปที่ดินตามพระราชบัญญัติการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

พ.ศ. 2518 จากการวิเคราะหขอมูลเกษตรกรจํานวน 2,874 ครัวเรือน ในป พ.ศ. 2540 ซึ่งขอมูลชุดนี้มา
จากฐานขอมูล Townsend Thai Project เชนเดียวกันกับที่งานวิจัยฉบับนี้ใชในการศึกษา ผลการศึกษา

พบวา ในพื้นที่ที่มีการจัดสรรที่ดินแบบเอกสารสิทธประเภท ส.ป.ก. 4-01 ใหกับเกษตรกร ครัวเรือนเกษตร

มีแนวโนมที่จะปลอยเชาแปลงที่ดินการเกษตรที่มีโฉนดของตนเองใหกับเกษตรกรรายอื่น และทําการ
เพาะปลูกเองในพื้นที่เอกสารสิทธ ส.ป.ก. ซึ่งอาจจะถูกยึดกลับจากรัฐได หากวารัฐพบวาเกษตรกรไมไดทํา

การเพาะปลูกดวยตนเองในพื้นที่เอกสารสิทธ ส.ป.ก.

2-4