Page 16 -
P. 16

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                           สรุปสําหรับผู้บริหาร





                    รับจ้างเกี่ยวนวดข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยที่มีการประกันราคาข้าวและจํานําข้าว ผู้ประกอบการจะ
                    มีรายได้สุทธิจากการเกี่ยวนวดข้าวเป็นจํานวนมาก  และในระยะหลังๆเมื่อเริ่มได้รับความเชื่อถือ  มีบัญชี

                    เงินฝากอยู่กับธนาคาร ก็จะใช้เงินกู้จากธนาคารอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งมีทั้งเงินกู้ที่มีกําหนดระยะเวลาชําระคืนที่
                    แน่นอน  และแบบเบิกเกินบัญชี  ธนาคารที่ปล่อยเงินกู้ให้มีทั้ง  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
                    การเกษตร (ธ.ก.ส.)  และธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ในพื้นที่  ส่วนกรณีของโรงงานขนาดใหญ่แหล่งเงินทุน
                    ในขณะเริ่มแรกแตกต่างออกไปบ้าง  คือเงินออมได้มาจากการประกอบอาชีพอื่นที่ไม่ใช่การทํานา  เช่น

                    ได้มาจากการค้าขาย การให้บริการขนส่ง หรือการผลิตเครื่องนวดข้าว หรือ รถไถนา เป็นต้น

                                โรงงานขนาดใหญ่นั้นมีแหล่งที่มาของเงินทุนอื่นอีกแหล่งหนึ่ง  คือ  เป็นนายทุนเงินกู้ให้แก่
                    ลูกค้าที่ต้องการซื้อรถเกี่ยวนวดข้าวจากโรงงาน  โรงงานขนาดใหญ่จึงมีรายได้จากส่วนเหลื่อมของอัตรา

                    ดอกเบี้ยอีกส่วนหนึ่ง   เจ้าหนี้การค้าก็เป็นแหล่งที่มาของเงินทุนอีกแหล่งหนึ่งของโรงงานทั้งสองขนาด
                    โรงงานสามารถขอเครดิตจากผู้ขายชิ้นส่วน อะไหล่ต่าง ๆ ได้ (การซื้อสินค้าจากผู้ขายเป็นเงินเชื่อ)

                                แหล่งเงินทุนที่สําคัญอีกแหล่งหนึ่งคือ  กําไรสะสม  โรงงานทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่มี

                    แหล่งที่มาของเงินกําไรสะสมอื่น ๆ อีก เช่นได้มาจาก การทํานา การให้เช่าที่นา การรับจ้างเกี่ยวนวดข้าว
                    ผสมเข้ามากับการขายรถเกี่ยวนวดข้าวด้วย  และถ้าโรงงานมีการผลิตสินค้าอื่น  ๆ  ที่นอกเหนือจากรถ
                    เกี่ยวนวดข้าว เช่นการผลิตรถตีดิน โรงงานก็จะมีรายได้จากการขายสินค้าชนิดอื่น ๆ นั้นด้วย

                                รายได้ของโรงงานขนาดเล็ก  น่าจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 12.5 – 100  ล้านบาทต่อปี (ขายรถ

                    เกี่ยวนวดข้าวได้ 5 – 40 คัน ณ ราคาเฉลี่ย 2.5 ล้านบาท) ในจํานวนนี้ประมาณร้อยละ 85 จะเป็น
                    ต้นทุนสินค้าขาย (ค่าใช้จ่ายในการผลิต  รวมค่าจ้างแรงงานของตัวเองและครอบครัว)  อีกประมาณร้อย
                    ละ 12 จะเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารและขายซึ่งจะเหลือเป็นกําไร (หรือขาดทุน) เพียงร้อยละ 3 เท่านั้น
                    ซึ่งเมื่อคิดออกมาเป็นตัวเงินแล้ว โรงงานจะได้กําไรเพียงเล็กน้อย


                                โรงงานขนาดใหญ่จะมีรายได้รวมต่อปีอยู่ในช่วง 300 – 450  ล้านบาท  อย่างไรก็ตาม
                    โรงงานขนาดใหญ่มีต้นทุนสินค้าขายโดยเฉลี่ยใกล้เคียงกับของโรงงานขนาดเล็ก  แต่มีช่วงกว้างมากกว่า
                    พอสมควร  คือตั้งแต่ร้อยละ 82 – 91  ของยอดขายรวม  ซึ่งโรงงานขนาดใหญ่จะมีกําไรขั้นต้นอยู่ที่

                    ประมาณ 40 – 50 ล้านบาท ที่แตกต่างจากโรงงานขนาดเล็ก คือ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เป็น
                    สัดส่วนน้อยกว่าโรงงานขนาดเล็ก คือ ต่ํากว่าร้อยละ 10 ของยอดขาย การศึกษาพบว่ากิจการขนาดใหญ่
                    ที่มีกําไรสุทธิ จะมีกําไรสุทธิในช่วง 10 – 16 ล้านบาท (โรงงานที่ขาดทุนก็มี)

                                อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน  เมื่อพิจารณาเฉพาะกิจการที่มีกําไรสุทธิ (ไม่รวมกลุ่มที่

                    ขาดทุนสุทธิ)  พบว่าอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์  ของกิจการผลิตรถเกี่ยวนวดข้าวนั้นไม่สูง  โรงงาน
                    ขนาดเล็กจะมีอัตราผลตอบแทนประมาณร้อยละ 5  ส่วนโรงงานขนาดใหญ่นั้น  มีอัตราผลตอบแทน  ที่
                    ร้อยละ 2.5 – 8.5  เมื่อพิจารณาถึงอัตราผลตอบแทนต่อเงินทุนส่วนของผู้เป็นเจ้าของ  พบว่ามีอัตราสูง

                    พอสมควร โรงงานขนาดเล็กจะมีอัตราผลตอบแทนที่ประมาณร้อยละ 14 ส่วนโรงงานขนาดใหญ่ที่มีกําไร
                    สุทธิ จะมีอัตราผลตอบแทนในช่วงร้อยละ 9 – 16





                                                              7
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21