Page 148 -
P. 148

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

             142
                     โครสร้างพืช


            testa ซึ่งเป็นเปลือกชั้นนอก  มักมีความหนา แข็ง และเหนียว  ส่วนเซลล์ชั้นใน หรือ inner integument

            จะเปลี่ยนไปเป็นเยื่อบางๆ ของเปลือกหุ้มเมล็ดที่อยู่ด้านใน เรียกว่า tegmen  พืชบางชนิดเปลือกหุ้มเมล็ด
            เปลี่ยนแปลงมาจาก integument เพียงชั้นเดียว  หรือทั้ง 2 ชั้นมาเชื่อมติดกันเป็นชั้นเดียวกันก็ได้  ในพืช

            บางชนิดมีเปลือกหุ้มเมล็ดที่เชื่อมรวมกับเปลือกผล (pericarp)  และพืชบางชนิดอาจมีเปลือกหุ้มเมล็ดที่
            แห้งและแข็งมาก  บนเปลือกหุ้มเมล็ดจะเห็นบางส่วนของออวุลหลงเหลืออยู่หลังการพัฒนาเป็นเมล็ดแล้ว

            ซึ่งลักษณะดังกล่าวเช่น รอยแผลของก้านที่เชื่อมระหว่างออวุลและรังไข่ (funiculus)  ที่เหลืออยู่เป็นรอย
            แผลที่เรียกว่า hilum  (ภาพที่ 8.2) ใกล้กับบริเวณรอยแผลนี้จะมีรูเล็กๆ เรียกว่า micropyle  ซึ่งแต่เดิมเป็น

            ทางเข้าไปในรังไข่ของหลอดเรณู  ด้านที่อยู่ตรงข้ามกับ micropyle  จะเห็นเปลือกเมล็ดเป็นสันนูนขึ้นมา

            เล็กน้อย เรียกว่า raphe  ซึ่งเป็นรอยที่ก้านของออวุลแผ่ออกไปจับกับเปลือกหุ้มเมล็ดโดยการบิดโค้งตัว
            ของออวุล  และบริเวณปลายสุดของ raphe นี้จะเป็นบริเวณที่มีท่อล าเลียงเรียกว่า chalaza

















                           ภาพที่ 8.2  ลักษณะของเปลือกหุ้มเมล็ด

                   ในเมล็ดละหุ่ง  เปลือกหุ้มเมล็ดมีลักษณะเป็นลายต่างๆ  และบริเวณ  hilum  มีเนื้อเยื่อคล้าย

            ฟองน้ า  เรียกว่า  caruncle  ติดอยู่  (ภาพที่  8.3)    ซึ่งเป็นกลุ่มของท่อล าเลียงที่เดิมเป็นส่วนรอยต่อของ
            integument และ funiculus  และท าหน้าที่อุ้มน้ าเพื่อการงอกของเมล็ด


                   เมล็ดลิ้นจี่ ล าใย เงาะ และทุเรียน  มีส่วนที่เจริญภายนอก (outgrowth) ของส่วน integument  ที่
            เปลี่ยนแปลงไปเป็นเนื้อห่อหุ้มเมล็ดไว้และสามารถน ามาบริโภคได้ เรียกว่า aril  ในเมล็ดฝ้ายนั้น ส่วนของ

            outer integument จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ขน 2 ชนิด  คือ lint hair (ปุยยาว)  และ fuzz hair (ปุยสั้น)
            ซึ่งเป็นเส้นใยสีขาวที่สามารถน ามาใช้ประโยชน์ได้












            รศ. ดร. ลิลลี่  กาวีต๊ะ
   143   144   145   146   147   148   149   150   151   152   153