Page 152 -
P. 152
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
146
โครสร้างพืช
เห็นปลายยอดเจริญออกมา และมีการสร้างใบและเจริญเติบโตต่อมา โดยขณะที่เมล็ดก าลังงอกนั้น
อาหารที่สะสมอยู่จะถูกน าไปใช้เพื่อ กระบวนการงอก และการเจริญเติบโตในช่วงแรก เมื่ออาหารสะสม
ถูกใช้หมด ใบเลี้ยงหรือเอนโดสเปิร์มที่สะสมอาหารจะหลุดล่วงในเวลาต่อมา ซึ่งต้นอ่อนจะมีใบจริง
เกิดขึ้น ท าให้เกิดการสังเคราะห์แสงและสร้างอาหารเพื่อการเจริญเติบโตของต้นพืชต่อไป การงอกแบบ
epigeal germination พบได้ในพืช เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง มะขาม ซึ่งอาหารสะสมในส่วนของใบเลี้ยง
และละหุ่ง ซึ่งมีอาหารสะสมในเอนโดสเปิร์ม เป็นต้น
2. การงอกแบบ hypogeal germination (ภาพที่ 8.6) โดยเมื่อเมล็ดงอกเป็นต้นกล้า ส่วนของ
ใบเลี้ยงจะยังคงอยู่ในดิน เมื่อเมล็ดเริ่มงอก ส่วนของ coleorhiza จะแทงทะลุเปลือกหุ้มเมล็ดออกมาให้
primary root และรากแขนง ตามด้วยส่วนของ coleoptile แทงทะลุผิวดินขึ้นมา ต่อจากนนั้น ยอดอ่อน
แทงทะลุ coleoptile ออกมาเจริญเป็นต้นกล้า พืชที่มีการงอกแบบ hypogeal germination พบได้ เช่น
ข้าว ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ซึ่งมีเอนโดสเปิร์มสะสมอาหาร และ ถั่วลันเตา ถั่วพร้า ถั่วหรั่ง มีใบเลี้ยงสะสม
อาหาร
เมื่อต้นอ่อนเจริญเติบโต สร้างส่วนต่างๆ ของพืชและสร้างดอก ผล เมล็ด เกิดเป็นต้นใหม่ต่อไป
เป็นวัฏจักรชีวิตของพืช เพื่อการสร้างพันธุ์ การด ารงพันธุ์ การอยู่รอด และ การกระจายพันธุ์ ต่อไป
ส าหรับการแพร่กระจายพันธุ์ของพืชนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถแพร่กระจายของผลและเมล็ด
ของพืชแต่ละชนิด โดยลักษณะของผลและเมล็ดเป็นส่วนส าคัญที่จะท าให้เกิดการแพร่กระจาย หรือการ
คงอยู่เฉพาะที่ของพืชพรรณเหล่านั้น นอกจากลักษณะของผลและเมล็ดที่ท าให้เกิดการกระจายพันธุ์แล้ว
สภาพแวดล้อมที่พืชสามารถปรับตัวเจริญเติบโต และพาหะต่างๆ ยังเป็นปัจจัยที่ส าคัญต่อการกระจาย
พันธุ์เช่นเดียวกัน ส าหรับพาหะที่ท าให้เกิดการกระจายพันธุ์ เช่น มนุษย์และสัตว์ ลม และ น้ า เป็นต้น
รศ. ดร. ลิลลี่ กาวีต๊ะ