Page 14 -
P. 14
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
8
โครสร้างพืช
ของเยื่อหุ้มเซลล์ที่แตกต่างกัน เช่น Danielli-Davson Model, Robertson Model และ Fluid Mosaic
Model
Fluid Mosaic Model (ภาพที่ 1.7) ซึ่งเสนอโดย Singer และ Nicolson สรุปได้ว่าเยื่อหุ้มเซลล์
ประกอบด้วยโมเลกุลของฟอสฟอลิปิดเรียงตัวกันเป็น 2 ชั้น โดยปลายด้านที่มีประจุอยู่ด้านนอก และ
ปลายด้านที่ไม่มีประจุอยู่ด้านในหันเข้าหากันทั้งสองชั้น โมเลกุลของโปรตีนจะแทรกอยู่ระหว่างโมเลกุล
ของฟอสฟอลิปิด และห่อหุ้มอยู่ด้านนอก ดังนั้นโมเลกุลของโปรตีนและไขมันที่ผนังเยื่อหุ้มเซลล์อาจท า
ปฏิกริยาต่อกัน เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ความหนาของผนังเซลล์ประมาณ 8 nm
ภาพที่ 1.7 Fluid Mosaic Model ของเยื่อหุ้มเซลล์พืช เสนอโดย Singer และ Nicolson
(ที่มา: Stern, 1994)
เยื่อหุ้มเซลล์ท าหน้าที่แบ่งขอบเขตระหว่างภายในและภายนอกเซลล์ และควบคุมการผ่านเข้าออก
ของสารหรือโมเลกุลต่างๆ มีลักษณะเป็น semi-permeable membrane คือ เลือกให้สาร หรือ อิออนบาง
ชนิดผ่านเข้าไปได้ การผ่านเข้าไปของสารทางเยื่อหุ้มเซลล์โดยไม่ต้องอาศัยพลังงานเรียกว่า passive
transport แต่ถ้าต้องอาศัยพลังงาน เรียกว่า active transport เนื่องจากเยื่อหุ้มเซลล์เป็นส่วนส าคัญใน
การเคลื่อนย้ายสิ่งต่างๆ จึงมีการศึกษาวิจัยกันอย่างมากจนถึงปัจจุบัน
2. ไซโตพลาสซึม (cytoplasm) มีลักษณะเป็นกึ่งของแข็งกึ่งเหลว ประกอบด้วยโปรตีน 15-20%
น้ า 70-80% ที่เหลือเป็นพวกเกลือแร่ กรดไขมัน กรดนิวคลีอิค และ อิออน สารต่างๆ เหล่านี้เกี่ยวข้องกับ
กระบวนการเมแทบอลิซึม (metabolism) ของเซลล์ เช่น ในการสังเคราะห์แสง และ การหายใจ เป็นต้น
ไซโตพลาสซึมมีทั้งส่วนที่เป็นออร์กาเนล (organelles) (ภาพที่ 1.1) ซึ่งได้แก่
1) Endoplasmic reticulum (ER) เป็นส่วนของเซลล์ที่มีลักษณะเป็นท่อที่มีแขนงกระจายอยู่ใน
ไซโตพลาสซึม ท่อเหล่านี้ประกอบด้วยโปรตีนและไขมัน ER แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทแรกมี
รศ. ดร. ลิลลี่ กาวีต๊ะ