Page 11 -
P. 11
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ใช้ยึดแผ่นอิฐ 2 แผ่นเข้าด้วยกัน โดยปกติแล้ว middle lamella มีขนาดบางมากและไม่อาจเห็นได้ด้วย
กล้องจุลทรรศน์ทั่วๆ ไป
2) primary wall เป็นผนังเซลล์ชั้นแรกที่โปรโตพลาสซึมสร้างขึ้น หลังจากที่สร้าง cell plate และ
middle lamella แล้ว เป็นผนังที่อยู่ด้านนอกสุดของเซลล์ มีลักษณะเป็นผนังที่เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ยังมีอายุ
น้อยหรือก าลังพัฒนา จนถึงเมื่อเติบโตเต็มที่ โดยปกติประกอบด้วย เซลลูโลส เฮมิเซลลูโลส และเพคติน
เซลล์พืชบางชนิดจะมีเฉพาะส่วนของ primary wall เท่านั้นที่พบในผนังเซลล์ เช่น เซลล์ที่ก าลังแบ่งตัว
(meristematic cell) และ เซลล์พาเรนไคมา (parenchyma cell)
3) secondary wall เป็นผนังชั้นในสุด เกิดหลังจากที่เซลล์หยุดการขยายขนาด มีการสะสม
เซลลูโลส ลิกนิน ซูเบอริน และคิวติน ท าให้ผนังมีความหนาและแข็งแรงมากกว่า primary wall พบใน
เซลล์ที่เจริญเต็มที่แล้ว ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเซลลูโลส (มักมีอยู่ด้วยกัน 3 ชั้น) ที่เรียงตัวสลับซับซ้อน
และหนาแน่นกว่า primary wall นอกจากนี้ยังมีสารจ าพวกลิกนินและคิวติน ช่วยเพิ่มความแข็งแรง
ความเหนียว และทนทานต่อศัตรูพืชได้ดีกว่า primary wall ผนังเซลล์ชั้นที่สองพบในผนังเซลล์พวก fiber,
vessel, tracheid และ sclerenchyma
ที่มา: http://www.yellowtang.org/images/cell_walls_in_plant_c_ph_784.jpg
ภาพที่ 1.4 แสดงส่วนของผนังเซลล์พืชที่ประกอบด้วย ส่วนของ 1) middle lamella 2) primary
wall และ 3) secondary wall
เนื่องจากองค์ประกอบส่วนใหญ่ของผนังเซลล์คือเซลลูโลส ซึ่งไม่ละลายน้ า แต่ดูดซึมและยอมให้
น้ าผ่านเข้าออกได้ อีกทั้งเป็นตัวการส าคัญท าให้ผนังเซลล์แข็งและยืดหยุ่นได้ ส่วนประกอบอื่นๆ ของ
รศ. ดร. ลิลลี่ กาวีต๊ะ