Page 175 -
P. 175
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
166
คูการแปลงฟูริเยรที่พบในหนังสือเลมอื่น ๆ นั้นอาจมีลักษณะแตกตางจากคูสมการที่
6.15 และ 6.16 ได โดยแตละแบบจะตางกันที่ตัวคูณ 1/MN โดยตัวคูณ 1/MN สามารถ
ไปปรากฏในสมการที่ 6.15 แทนได หรืออาจพบตัวคูณ 1/√MN ที่สมการ 6.15 และ
6.16 แทนก็ได หลักสําคัญของการเปลี่ยนแปลงคือ ตัวคูณของทั้งสองสมการจะตองมี
คาเทากับ 1/MN ทั้งนี้เนื่องจากหลังการแปลงฟูริเยรและการแปลงกลับฟูริเยร ผลลัพธ
ที่ไดจะมีขนาดใหญขึ้น MN เทา ทําใหตองหารคาทิ้งดวยคา MN ที่ใดที่หนึ่งในการทํา
ฟูริเยร
เมื่อพิจารณาสมการที่ 6.15 จะเห็นวาการคํานวณคา F(u,v) สําหรับแตละคา (u,v) การ
คํานวณจะตองใชทุก ๆ คาของคา f(x,y) ภายในภาพ การคํานวณฟูริเยรสองมิติจาก
สมการโดยตรงจึงใชเวลานานมาก ในทางปฎิบัติจะคํานวณในรูปของการแปลงฟูริ
เยรแบบรวดเร็วหรือการทํา FFT แทน สําหรับการทํา FFT สองมิติใน MATLAB ทํา
ไดดวยการเรียกใชคําสั่ง fft2(.) และเรียกใชคําสั่ง ifft2(.) สําหรับการทําฟูริเยรผกผัน
และในทํานองเดียวกันกับที่ไดกลาวไวในหวขอ 6.2.2 การทํา FFT จะทําใหคา
สเปคตรัมที่ไดมีลักษณะหลังชนหลัง คา FFT ความถี่สูงของภาพจะแสดงอยูบริเวณ
กลางภาพและความถี่ต่ําจะอยูที่มุมทั้งสี่ของภาพ การเลื่อนหคา FFT ความถี่ต่ํามาอยู
บริเวณกลางภาพทําไดดวยคําสั่ง fftshift(.) เมื่อตองการแปลงผกผันคาฟูริเยรจะใช
คําสั่ง ifft2(.) ซึ่งคาที่ไดจากการแปลงกลับโดยทั่วไปจะเปนเลขจํานวนเชิงซอนที่มีคา
จินตภาพที่ต่ํามาก ทั้งนี้เนื่องจากภาพอิมเมมีคาความเขมแสงเปนเลขจํานวนจริงบวก
เทานั้น จึงอาจตองใชคําสั่ง real(ifft2(.) เพื่อดึงคาจํานวนจริงที่คํานวณไดออกมา
คําสั่งดานลางเปนตัวอยางคําสั่งการแปลงฟูริเยรของภาพที่มีสัญญาณพลัสสองมิติอยู
บริเวณกลางภาพดังแสดงในรูปที่ 6.8(ก) ผลการทํา FFT และการทํา FFT ตามดวย
คําสั่ง fftshift(.)แสดงในรูปที่ 6.8(ข) และ 6.8(ค) ตามลําดับ
. >> im = zeros(128, 128);%สรางภาพพลัสสองมิติกลางภาพขนาด 128×128
>> im(33:64, 32:64) = 1;
>> f_im = fft2(im); %ทํา FFT