Page 163 -
P. 163
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
154 บทที่ 7
–
สารตั้งตนมีคามากกวาสภาพนําไฟฟาของ CH COO ซึ่งเปนผลิตภัณฑ ดังนั้นคาสภาพนําไฟฟา
3
ของสารละลายจะลดลงเมื่อปฏิกิริยาดําเนินไป
7.2 การหากฎอัตรา (Determination of Rate Law)
การหากฎอัตราคือการหาความสัมพันธระหวางอัตราการเกิดปฏิกิริยาและความเขมขนของ
สารตั้งตนแตละชนิด ที่อุณหภูมิหนึ่งๆ ดังนั้นในการทดลองจะตองติดตามความกาวหนาของ
ปฏิกิริยาโดยวัดการเปลี่ยนแปลงปริมาณสารเทียบกับเวลาดังที่กลาวมาในหัวขอ 7.1 และหาอันดับ
ของปฏิกิริยาซึ่งเปนสวนสําคัญของกฎอัตรา ซึ่งมีหลายวิธีคือวิธีการแยกเอกเทศ วิธีอัตราเริ่มตน วิธี
ครึ่งชีวิต และวิธีเทียบความสัมพันธระหวางความเขมขนและเวลา ตอจากนั้นจะคํานวณคาคงที่อัตรา
ของปฏิกิริยาที่อุณหภูมิหนึ่งๆ ได และการเปลี่ยนอุณหภูมิในการทดลอง จะสามารถหาคาคงที่อัตรา
ในแตละอุณหภูมิได และจะคํานวณพลังงานกระตุนตามสมการอารเรเนียส (Arrhenius equation)
ในชวงอุณหภูมิที่ศึกษาได
7.2.1 วิธีการแยกเอกเทศ (Isolation Method)
วิธีการแยกเอกเทศคือวิธีที่ใชศึกษากฎอัตราในกรณีที่มีสารตั้งตนมากกวาหนึ่งชนิด โดยใช
ควบคูกับวิธีหาอันดับของสารตั้งตนเพียงชนิดเดียว และมีหลักการคือทําใหความเขมขนของสารตั้ง
ตนทุกชนิดมีคามากเกินพอ ยกเวนสารตั้งตนเพียง 1 ชนิดที่ตองการหาอันดับ เพื่อแยกสารตั้งตนนี้
ออกจากสารตั้งตนชนิดอื่นๆ ตอจากนั้นนําวิธีการแยกเอกเทศไปใชรวมกับวิธีในการหาอันดับของ
สารตั้งตนเพียงชนิดเดียวตอไป ตัวอยางปฏิกิริยาตอไปนี้
k
A + B ⎯ →⎯ P (7.13)
p
มีกฎอัตราดังนี้ R = k [A] [B] q (7.14)
เมื่อ R = อัตราการเกิดปฏิกิริยา
p, q = อันดับที่ขึ้นกับความเขมขนของสารตั้งตน A และ B ตามลําดับ
n = p + q = เปนอันดับรวมของปฏิกิริยา
k = คาคงที่อัตราของปฏิกิริยาที่อุณหภูมิหนึ่งๆ