Page 7 -
P. 7

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                          (5)



                 สถาบันการศึกษา (4) ญาติพี่น้องและร้านเคมีการเกษตร (5) เอกสารเผยแพร่และสิ่งพิมพ์ต่างๆ และ (6) ผู้นํา

                 ชุมชนและวารสารการเกษตร เป็นที่น่าสังเกตว่า นักวิชาการ/พนักงานส่งเสริมเอกชน กลุ่ม/เครือข่าย และวิทยุ
                 เกษตรกรมีความต้องการในสัดส่วนที่ตํ่ากว่า


                   แหล่งความรู้ที่เกษตรกรส่วนใหญ่มีความต้องการมากแต่กลับได้รับน้อยกว่าความต้องการมาก ได้แก่
                 (1) นักวิชาการ/อาจารย์จากสถาบันการศึกษา (2) เอกสารเผยแพร่และสิ่งพิมพ์ต่างๆ (3) วารสารทางการเกษตร

                 (4) กลุ่ม/เครือข่าย และ (5) ผู้นําชุมชน จะเห็นได้ว่าการได้รับความรู้จากกลุ่มอยู่ในระดับตํ่ามาก


                  การนําความรู้ที่ได้รับจากแหล่งต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ พบว่า ระดับการใช้ประโยชน์ความรู้ที่ได้รับ
                 จากแหล่งต่างๆ เกือบทุกแหล่งอยู่ในระดับปานกลาง ยกเว้น เพื่อนเกษตรกรแหล่งเดียวที่อยู่ในระดับมาก  เป็น

                 การตอกยํ้าให้เห็นว่า ช่องทางการให้ความรู้ที่มีประสิทธิผล คือ เพื่อนเกษตกรด้วยกันเอง  (Farmer-to-farmer

                 หรือ peer-to-peer)

                        เกษตรกลุ่ม Non-GAP ส่วนใหญ่ ต้องการความรู้จากแหล่งต่างๆ เรียงลําดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่

                 (1) เพื่อนเกษตร (2) ร้านเคมีการเกษตร (3) โทรทัศน์ (4) เอกสารเผยแพร่และสิ่งพิมพ์ต่างๆ (5) นักวิชาการ/

                 อาจารย์จากสถาบันการศึกษา (6) นักวิชาการ/เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร และ (7) ญาติพี่น้อง เช่นเดียวกับ
                 เกษตรกรกลุ่ม GAP  ที่วิทยุ นักวิชาการ/พนักงานส่งเสริมเอกชน และกลุ่ม/กิจกรรมกลุ่ม ที่เกษตรกรมีความ

                 ต้องการในสัดส่วนที่ตํ่ากว่า

                  เมื่อพิจารณาถึงความสอดคล้องระหว่างความต้องการความรู้และการได้รับความรู้ จากแหล่งต่างๆ ดู

                 เหมือนจะไม่มีความสอดคล้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อดูจากสัดส่วนความต้องการความรู้จากนักวิชาการ/

                 อาจารย์ นักวิชาการ/เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร และเอกสารเผยแพร่ซึ่งเกษตรกรมีความต้องการสูง แต่กลับ

                 ได้รับน้อยกว่าความต้องการมาก ความต้องการความรู้และการได้รับความรู้จากกลุ่ม/กิจกรรมกลุ่ม ก็อยู่ใน
                 สัดส่วนที่น้อยที่สุด


                   ความรู้ที่ได้รับจากบรรพบุรุษมีการนําไปใช้ประโยชน์ในระดับมาก ในขณะที่ความรู้จากแหล่งอื่น
                 นําไปใช้ประโยชน์ได้ในระดับปานกลางเท่านั้น


                        องค์ความรู้/เทคโนโลยีการผลิตพริกระบบปลอดภัย (GAP) ที่ต้องการ

                        เกษตรกรทั้ง 2 กลุ่ม มีระดับความต้องการองค์ความรู้ในเรื่องต่างๆ คล้ายคลึงกัน ยกเว้น องค์ความรู้

                 เรื่องการป้องกันกําจัดแมลงและการป้ องกันกําจัดโรคที่เกษตรกรกลุ่ม Non-GAP มีความต้องการในระดับมาก

                 ที่สุด ในขณะที่เกษตรกรกลุ่ม  GAP มีความต้องการในระดับมาก  องค์ความรู้เทค/โนโลยีในเรื่องที่เกษตรกร
                 ต้องการในระดับมากที่สุดและในระดับมากควรได้มีการถ่ายทอดสู่เกษตรกรในรูปแบบซึ่งมีประสิทธิผล


                  เกษตรกรกลุ่ม       GAP  แม้ว่าจะผ่านการฝึกอบรม ยังคงมีความต้องการความรู้ในการปลูกพริกระบบ

                 ปลอดภัยอยู่ในระดับมาก โดยเฉพาะเรื่องที่มีความต้องการมากที่สุด คือ การเพิ่มผลิตและปรับปรุงคุณภาพ
                 พริก เรื่องที่ต้องการในระดับมากมีอยู่  9 เรื่อง เรียงตามลําดับได้แก่ (1) การป้ องกันและกําจัดแมลง (2) การ
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12