Page 79 -
P. 79
ิ
ิ
ั
ิ
ุ
ื
ิ
โครงการพัฒนาหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
์
76
ยาวออกเรื่อย นอกจากนี้ยังเห็นว่า เมื่อดึง ligament ให้ยืดยาวออกแล้วปล่อย ligament ไม่หดตัวกลับ
ตามแบบเดิม (hysteresis) เนื่องจากมีการเสียพลังงานยืดหยุ่นภายใน ligament ออกไป
ที่มา Solomonow M. Ligaments: a source of musculoskeletal disorders. J Bodyw Mov Ther.
2009;13(2):136-154. doi:10.1016/j.jbmt.2008.02.001
ภาพที่ 8 แสดงให้เห็น
ว่า A) การให้แรงดึง 10
นาที แล้วพก 10 นาที
ั
ซ้ำกันไปเรื่อยๆ จน
ครบ 110 นาที แล้ว
หยุดพัก พบว่า
A B ligament ยังมีความ
ยาวที่เพิ่มขึ้นคงค้างอยู่
(creep) ไม่หดกลับไปทความยาวเดิม นานถึง 7 ชั่วโมง B) การดึง ligament ให้ยาวออกซ้ำๆกัน ด้วย
ี่
ความถี่ทมากกว่า (0.5 รอบต่อวินาที) ภายหลังเมื่อหยุดดึงแล้ว ligament มีความยาวคงค้างมากกว่า การ
ี่
ดึง ligament ด้วยความถี่ที่น้อยกว่า (0.1 รอบต่อวินาที)
ที่มา Solomonow M. Ligaments: a source of musculoskeletal disorders. J Bodyw Mov Ther.
2009;13(2):136-154. doi:10.1016/j.jbmt.2008.02.001
คุณสมบัติ anisotropic ของ ligament
เนื่องจากการเรียงตัวของ collagen ขนานตามความยาวของ ligament จึงทำให้คุณสมบัติทาง
กลของ collagen ในทิศตามขวางและทศตามยาวแตกต่างกัน (ภาพที่ 9) เรียกว่ามีคุณสมบัติ anisotropic
ิ
็
โดย collagen มีความแขงแรงตามยาวมากกว่าตามขวางภายใต้แรงดึง ligament จึงมีความทนทานต่อ
แรงดึงตามยาวมากและทนทานต่อแรงดึงตามขวางน้อย
ภาพที่ 9 คุณสมบัติทางกลของ MCL มนุษย์ ในทิศในทิศตามขวาง
(Transverse) และทิศตามยาว (Longitudinal) ภายใต้แรงดึง
(tension) ในภาพแสดงถึงปริมาณของความเค้นดึง (tensile
stress) หรือแรงดึงต่อพื้นที่หน้าตัด มีหน่วยเป็น megapascal
(MPa) และแสดงถึงความยาวที่เปลี่ยนแปลงไปจากความยาวเดิม
(tensile strain) มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) นอกจากนี้จะเห็นว่า
Clinical Biomechanics of Knee ผศ.ดร.สิริพร ศศิมณฑลกุล