Page 45 -
P. 45
์
ิ
ิ
ื
ิ
ิ
โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โซ่คุณค่า
ของธุรกิจโรงสีข้าว
ื
กระบวนการรับซ้อข้าวเปลือกของโรงสีข้าวจะเป็นการรับซ้อจากท้งเกษตรกรโดยตรงและผู้รวบรวม
ื
ั
ื
ั
ท้งหน้าโรงสีข้าว หรือการต้งลานรับซ้อ ปริมาณการรับซ้อข้าวเปลือกของโรงสีข้าวจะแตกต่างกัน
ั
ื
ตามขนาดของโรงสีข้าว โดยปัจจัยภายนอกท่มากระทบต่อกิจกรรมการรับซ้อข้าวเปลือกคือ พฤติกรรม
ื
ี
�
�
ของเกษตรกรในการนาข้าวเปลือกมาจาหน่าย ในอดีตเกษตรกรจะทยอยน�าข้าวเปลือกมาจ�าหน่าย
�
ี
ี
�
�
ึ
ี
เป็นระยะ โดยมักจะมีส่วนหน่งนามาจาหน่ายทันทีหลังเก็บเก่ยวและจะมีบางส่วนท่นาไปเก็บไว้ท่ยุ้งฉาง
ี
ั
ื
�
ี
แล้วจึงทยอยมาจาหน่ายในภายหลัง อีกท้งเน่องจากรูปแบบการเก็บเก่ยวในอดีตเป็นการเก่ยว
�
ด้วยแรงงานทาให้ระยะเวลาของการนาข้าวเปลือกมาจาหน่ายจะมีระยะเวลานานกว่าในปัจจุบัน โดย
�
�
ั
�
�
ี
ในปัจจุบันระยะเวลาท่เกษตรกรนาข้าวเปลือกมาจาหน่ายพบว่ามีระยะเวลาประมาณ 20 วันเท่าน้น
ี
ี
ึ
ซ่งส่วนหน่งมาจากการปรับเปล่ยนวิธีเก่ยวข้าวเป็นรถเก่ยว ดังนั้นโรงสีข้าวจึงต้องมีการแข่งขันกันรับซ้อ
ื
ี
ึ
ข้าวเปลือกให้ได้มากที่สุดเพื่อให้เพียงพอต่อปริมาณข้าวเปลือกที่ต้องการใช้ตลอดทั้งปี
ปริมาณความต้องการข้าวเปลือกของโรงสีข้าวข้นอยู่กับขนาดเคร่องจักรและรูปแบบของ
ื
ึ
โรงสีข้าวเป็นหลัก โดยในปี 2564 โรงสีข้าวขนาดใหญ่มีการรับซ้อข้าวเปลือกโดยรวมเฉล่ย
ี
ื
56,000 - 58,875 ตันต่อปีต่อโรงสีข้าว ในขณะท่โรงสีข้าวขนาดกลางเน้นการสีข้าวเพ่อการส่งออก
ื
ี
มีการรับซ้อข้าวเปลือกโดยรวมเฉล่ย 8,500 ตันต่อปีต่อโรงสีข้าว ส่วนโรงสีข้าวท่เน้นการจาหน่าย
ี
�
ื
ี
ี
่
ี
ื
ี
ั
ิ
ี
ิ
ในประเทศแบบมตราสนค้า และไม่มตราสนค้ามการรบซอข้าวเปลอกโดยรวมเฉลย 14,189.43
ื
้
ี
ึ
และ 14,690.91 ตันต่อปีต่อโรงสีข้าว ซ่งไม่มีความแตกต่างกันมาก ขณะท่โรงสีข้าวขนาดเล็กท่เน้น
ี
ื
การจาหน่ายในประเทศแบบมีตราสินค้า และไม่มีตราสินค้า มีการรับซ้อข้าวเปลือกโดยรวมเฉลี่ย
�
2,064.57 และ 3,052.22 ตันต่อปีต่อโรงสีข้าว (ตารางที่ 2.2)
ตารางที่ 2.2 ปริมาณการรับซื้อข้าวเปลือกในปี 2564
(ตันต่อปีต่อโรงสีข้าว)
โรงสีข้าว โรงสีข้าวเน้นขาย โรงสีข้าวเน้นขาย
ขนาดโรงสีข้าว
ที่เน้นการส่งออก ในประเทศมีตราสินค้า ในประเทศไม่มีตราสินค้า
ใหญ่ 58,419.07 56,000.00 58,875.00
กลาง 8,500.00 14,189.43 14,690.91
เล็ก - 2,064.57 3,052.22
ที่มา: จากการสัมภาษณ์และวิเคราะห์ข้อมูล
อัจฉรา ปทุมนากุล และคณะ 43