Page 9 -
P. 9
์
โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ิ
ิ
ิ
ื
ิ
เนยแข็ง (Soft, Hard cheese) นมข้น นมระเหยน้ า ไอศกรีม โยเกิร์ต และ Butter milk เป็นต้น เนยแข็งจาก
น้ านมกระบือนั้นจะมีสีขาว ใช้น้ านมดิบในการผลิตน้อยกว่าน้ านมวัว เนื่องจากมีปริมาณไขมันสูงกว่า จึงเป็นที่
นิยมบริโภคในหลายประเทศ ซึ่งชื่อเรียกก็จะแตกต่างกันไป เช่น Mozzarella, Ricotta, Salty cheese
เป็นต้น แต่กระบือปลักจะให้ปริมาณน้ านมน้อยกว่ากระบือแม่น้ า โดยกระบือปลักจะให้ปริมาณน้ านมเฉลี่ย
ประมาณ 1 ลิตร/วัน กระบือแม่น้ าให้ปริมาณน้ านมกว่า 5 ลิตร/วัน
3. เนื้อ (Meat) เนื้อกระบือมีความแตกต่างจากเนื้อโค คือ มีสีเข้มกว่า ไขมันมีสีขาว กล้ามเนื้อมีไขมัน
แทรกน้อยกว่า (2-3% Marbling) เส้นใยกล้ามเนื้อ (Muscle) ของกระบือหนากว่า เปอร์เซ็นต์ซากโดยทั่วไป
อยู่ระหว่าง 42-49 เปอร์เซ็นต์ของน้ าหนักตัว ขึ้นกับความอ้วนของสัตว์ ถ้าผ่านการขุนอย่างดี อาจได้เปอร์เซ็นต์
ซากถึง 53 เปอร์เซ็นต์ของน้ าหนักตัว
4. ได้มูลเป็นปุ๋ย กระบือขนาดใหญ่ให้มูลเป็นปุ๋ยในไร่นาประมาณปีละ 2-3 ตันต่อตัว สามารถน าไปใช้
ประโยชน์ในไร่นาได้ และสามารถจ าหน่ายไปเป็นปุ๋ยเป็นรายได้เสริม หรืออาจน าไปใช้ผลิตเป็นแก๊สชีวภาพได้
อีกด้วย
5. ประโยชน์จากพื้นที่ลุ่ม กระบือสามารถเปลี่ยนอาหารคุณภาพต่ าและวัชพืชมาเป็นเนื้อได้ดี ประหยัด
ค่าอาหารในการเลี้ยง
6. เป็นทรัพย์สินของเกษตรกร เลี้ยงไว้ใช้งานแล้วยังสามารถไว้ขายในยามที่เกษตรกรขาดแคลนทุน
ทรัพย์
การเริ่มต้นการเลี้ยงกระบือ
ิ่
ผู้ที่จะเริ่มต้นเลี้ยงสัตว์นั้นจะต้องมีการศึกษาข้อมูล หาความรู้เพมเติม เป็นผู้ที่มีความกระตือรือร้น
ขยัน อดทน ทั้งนี้ เพราะสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการการเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ ซึ่ง ธีระ (2528) ได้แนะน าการ
เริ่มต้นเลี้ยงสัตว์ไว้ดังนี้
์
1. ลักษณะของผู้ที่จะเลี้ยงสัตวส าเร็จ ผู้ที่จะเลี้ยงสัตว์ได้ส าเร็จสมควรจะต้องมีลักษณะและนิสัย
ดังต่อไปนี้
1.1 มีนิสัยรักและชอบสัตว์ ความรักและชอบจะเป็นเหตุให้ผู้เลี้ยงเอาใจใส่ดูแลสัตว์อยู่เสมอ
ผู้เลี้ยงสัตว์บางคนเห็นคนอนลงทุนเลี้ยงสัตว์แล้วรวยก็เลี้ยงตามอย่างบ้าง แต่พอลงทุนเลี้ยงไปแล้ว พบว่านิสัย
ื่
ไม่ชอบและไม่เหมาะสมกับการเลี้ยงสัตว์ ท าให้กิจการเลี้ยงสัตว์ต้องล้มเลิกไปในที่สุด
1.2 ต้องแสวงหาความรู้ความช านาญอยู่เสมอ ความรู้และความช านาญนับว่าเป็นหัวใจที่สุด
ของการผลิตสัตว์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ความรู้อาจจะศึกษาได้จากต าราวิชาการต่าง ๆ ซึ่งจะมีรายงานถึงการ
ค้นพบใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ หรือศึกษาจากตัวสัตว์เอง ในขณะที่ความช านาญจ าเป็นต้องอาศัยประสบการณ์
และการปฏิบัติด้วยตัวเองเป็นหลัก
1.3 เป็นคนละเอียดรอบคอบ เนื่องจากสัตว์พูดไม่ได้ ฉะนั้นผู้เลี้ยงจ าเป็นต้องคอยตรวจสังเกต
อยู่เสมอ การมองข้ามจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจเป็นสาเหตุท าให้กิจการเลี้ยงสัตว์ต้องขาดทุน ล้มเลิกไปได้
1.4 ต้องเป็นคนสู้งาน การเลี้ยงสัตว์จะต้องเป็นผู้ท างานด้วยตนเองบ้าง งานบางอย่างจะ
วางใจให้คนอื่นท าแทนไม่ได้ เนื่องจากความกระตือรือร้นและความเอาใจใส่ทุ่มเทกับงานของลูกจ้างมักจะไม่สูง
ิ่
เท่าเจ้าของกิจการเอง และการท างานด้วยตนเอง เท่ากับเป็นการเพมพนประสบการณ์และความช านาญ
ู
ให้ตัวเองด้วย
ื
2 | คู่มอการผลิตกระบือพันธุ์ส าหรับผู้ประกอบการ