Page 58 -
P. 58
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทักษะการแปลภาษาจีนเป็นภาษาไทย
คลาดเคลื่อนไปได้มาก งานวิจัยดังกล่าวได้เสนอวิธีการจัดการกับ
ปัญหาการแปลบทขยายและส่วนเสริมจากภาษาจีนเป็นภาษาไทย ว่า
สามารถกระท าได้โดยใช้แนวคิดเกี่ยวกับขั้นตอนการแปลที่กระท าต่อ
ความหมายใน 3 ขั้นตอนที่ Albir และ Alves ได้สรุปไว้คือ เข้าใจ
ความหมาย-แยกความหมายออกจากภาษา-กล่าวความหมายซ้ าเป็น
อีกภาษาหนึ่ง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เข้าใจง่ายและสามารถยึดเป็นหลักใน
การด าเนินงาน เพราะท าให้ไม่หลงแปลผิด แปลคลาดเคลื่อนหรือ
กระท าเกินหน้าที่ของผู้แปล ทั้งนี้ผู้แปลจะมีทักษะการแปลภาษาจีน
เป็นภาษาไทยที่ดีได้ ต้องอาศัย 3 เรื่องดังต่อไปนี้คือ 1. พัฒนา
พื้นฐานทางไวยากรณ์ของตนให้ดีทั้ง 2 ภาษาเพราะเป็นปัจจัยส าคัญ
ที่จะใช้ในการวิเคราะห์ต้นฉบับ 2. ฝึกฝนการวิเคราะห์แยะ
ส่วนประกอบต่างๆ ของประโยคในต้นฉบับ ทั้งนี้ ในการค้นคว้า
พจนานุกรม ต้องเข้าใจความหมายที่แท้ที่อยู่เบื้องหลังถ้อยค าที่ใช้ใน
ภาษา ไม่ยึดติดกับรูปภาษาที่ปรากฏ 3. ฝึกการถ่ายทอดความหมาย
โดย “ผละ” ออกจากภาษาต้นทางให้ได้ เรียบเรียงเป็นภาษาที่สื่อ
ความในฉบับแปล
อันที่จริง ปัญหานี้การแปลบทขยายและส่วนเสริมจาก
ภาษาจีนเป็นภาษาไทยจะลดลงได้มากถ้าผู้แปลมีพื้นฐานไวยากรณ์ที่
ดีทั้งภาษาไทยและภาษาจีน เข้าใจเรื่องโครงสร้างของประโยคเป็น
อย่างดี กล่าวได้ว่าผู้เรียนการแปลควรเรียนวิชาไวยากรณ์ก่อน ซึ่ง
หากพิจารณาหลักสูตรต่างๆ ของมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนภาษาจีน
เป็นวิชาเอกจะพบว่า มหาวิทยาลัยต่างๆ นิยมจัดวิชาการแปลไว้ในปี
บทที่ 4 การแปลบทขยายและส่วนเสริม 51