Page 192 -
P. 192
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทักษะการแปลภาษาจีนเป็นภาษาไทย
เส้นใต้หรือใช้วิธีการอื่นหรือไม่ เช่น “เชริ่ง” “เซริ่ง” “เฉิ้ง” เฉริ้ง”
“เสิ้ง” “เสริ้ง” “เซิ่ง” “เสิ้ง” ฯลฯ
จะเห็นได้ว่าปัญหาในการถ่ายถอดเสียงภาษาจีนเป็น
ภาษาไทยนั้นมีมาก ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากความแตกต่างของ
ภาษาจีนและภาษาไทย อีกส่วนหนึ่งมาจากความแม่นในหลัก
ภาษาไทยของผู้แปล หากผู้แปลไม่ศึกษาเกณฑ์การทับศัพท์ ก็เป็น
การยากที่จะรับประกันได้ว่าจะถอดเสียงประเภทเดียวกันไว้อย่าง
เดียวกันในชิ้นงาน และที่ถ่ายถอดเสียงไปตามที่ตนเอง “เห็นว่า”
ตรงกับเสียงภาษาจีนที่ตนได้ยิน นั้น ที่แท้แล้ว “ตรง” จริงหรือไม่
(ซึ่งในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายทอดเสียงข้ามภาษามาได้
โดยสมบูรณ์จริงๆ ) แค่ประเด็นว่าจะท าให้ผู้อ่านงานของตนนั้น อ่าน
ออกเสียงวรรณยุกต์มาไม่เพี้ยนจากที่ผู้แปลคาดหวังก็เป็นปัญหาแล้ว
ฉะนั้น ค าถามที่ว่าไม่ต้องศึกษาเกณฑ์ใด เลือกเขียนตามที่ผู้
แปลเห็นว่า “ตรง” กับเสียงภาษาจีนที่ตนได้ยินได้หรือไม่ ค าตอบคือ
หากต้องการให้งานมีมาตรฐาน และลดความเสี่ยงที่จะให้เสียงที่ถ่าย
ถอดออกมาผิดเพี้ยนไปจากที่ผู้แปลคาดหวัง ก็ควรจะใช้เกณฑ์ใดสัก
เกณฑ์หนึ่ง
ส าหรับค าถามที่ว่า แล้วจะเลือกใช้เกณฑ์ใดดี ต้องทราบ
ก่อนว่าปัจจุบันประเทศไทยมีเกณฑ์ถ่ายถอดเสียงภาษาจีนเป็น
ภาษาไทยของทางราชการอยู่ 2 เกณฑ์ คือ “เกณฑ์การถ่ายถอด
เสียงภาษาจีนแมนดารินด้วยอักขรวิธีไทย” โดยคณะกรรมการสืบค้น
บทที่ 8 การทับศัพท์หรือการถ่ายถอดเสียงภาษาจีนเป็นภาษาไทย 185