Page 7 -
P. 7
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การจัดการดินสําหรับการเกษตร แต่เป็นการปล่อยให้ดินฟื้นตัวเองตามกระบวนการทําหน้าที่ของ
ระบบนิเวศธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการปลูกพืชเชิงเดี่ยว หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีตามข้อตกลงของชุมชน แม้ว่า
จะมีบางครัวเรือนที่ขอใช้สารเคมีและใช้เหลือด้วยก็ตามแต่เป็นสัดส่วนที่น้อยมาก โดยหลังเก็บเกี่ยวก็จะ
ปล่อยให้เป็นพื้นที่สําหรับการเลี้ยงสัตว์ นอกจากจะช่วยกําจัดหญ้าและวัชพืชแล้วมูลสัตว์ยังเป็นปุ๋ ยในการ
บํารุงดินอีกด้วย ทั้งนี้การจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและการเตรียมพื้นที่ไร่หมุนเวียนจะใช้วิธีการเผา
เพื่อเปลี่ยนแปลงให้เป็นธาตุอาหารที่ดูดซับได้ไวขึ้นในรูปของขี้เถ้า สําหรับวัสดุที่เหลือใช้หรือขยะจาก
ครัวเรือนก็จะมีโครงการในการขัดแยกขยะโดยขยะที่เป็นโลหะและพลาสติกก็จะนําไปอัดและขายต่อไป
ทั้งนี้การบริหารจัดการทรัพยากรจะดําเนินการผ่านกลไกหลักที่สําคัญคือคณะกรรมการชุมชน และ
คณะกรรมการทางด้านศาสนา มีโครงสร้างและหน้าที่ชัดเจนในการจัดการทรัพยากรโดยมีการประชุมเป็น
ประจําทุก 1-2 เดือน นอกจากจะทําหน้าที่ในการบริหารจัดการให้เป็นไปตามข้อตกลงของชุมชนแล้วยัง
บริหารจัดการกองทุนหน่อไม้ กองทุนขยะ และกองทุนสิบลด ทั้งสามกองทุนล้วนมีส่วนช่วยในการจัดการ
ทรัพยากร
การบริหารจัดการดังกล่าวแสดงนัยยะว่าระบบนิเวศบริการจะยังคงสามารถให้บริการต่าง ๆ ให้กับ
ชุมชนได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเป็นแหล่งผลิตอาหาร การดํารงไว้ซึ่งวัฒนธรรม การควบคุมกลไกและการ
สนับสนุนการทํางานของระบบนิเวศให้เกิดความยั่งยืน อีกทั้งด้วยระบบการผลิตในลักษณะนี้เป็นการช่วย
ส่งเสริมให้ชุมชนเกิดความสามัคคี ช่วยเหลือกันในการลงแรงทางการเกษตร การสร้างระบบ การเคารพสิทธิ
การใช้ประโยชน์ร่วมกันตามระบบของโฉนดชุมชน แม้กระทั้งการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ไร่หมุนเวียนซึ่ง
เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนรวมก็ไม่เคยมีปัญหา ชุมชนมีความมั่นคงทางอาหาร สามารถเข้าถึงอาหารได้ตลอดเวลา
บริโภคอาหารที่มีความหลากหลายและมีคุณภาพ มีสุขภาพที่ดี ระบบเศรษฐกิจชุมชนที่พอเพียงซึ่งสอดคล้อง
ไปกับตัวชี้วัดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ SDG 2 การยุติความหิวโหย สร้างความมั่นคงทาง
อาหาร และการส่งเสริมการเกษตรกรรมยั่งยืน รวมทั้งเป้าหมายที่ 15 การปกป้องฟื้นฟูและการใช้ระบบนิเวศ
ป่าไม้อย่างยั่งยืน เป้าหมายที่ 12 การสร้างหลักประกันในการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ในขณะที่เป้าหมาย
ที่ 2 12 และ 15 ในภาพรวมของประเทศแล้วยังมีความท้าทายอย่างมีนัยสําคัญ แต่ชุมชนกลับดําเนินการได้ดี
แม้ว่าหนี้สินและการใช้จ่ายของครัวเรือนชุมชนจะทําให้กะเหรี่ยงบ้านกลางถูกจัดอยู่ในกลุ่มคนยากจนก็ตาม
ซึ่งทําให้ไม่บรรลุ SDG 1 ในการยุติความยากจนซึ่งเป็นเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนอันเดียวที่ประเทศไทย
สามารถดําเนินการได้ดีในภายรวมของประเทศ ทั้งนี้ประเด็นที่เป็นความท้าทายของชุมชนในการที่จะพัฒนา
ต่อไปคือการลดความเปราะบางทางเศรษฐกิจของชุมชนและสร้างความยืนหยัด (resilience) ต่อการ
เปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ จากภายนอก
ช