Page 4 -
P. 4

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว






               ว่าทั้งสี่เป้าหมายนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างยิ่ง ระบบนิเวศที่ยั่งยืนจะนํามาซึ่งการผลิตที่ยั่งยืนและหากชุมชน

               บริโภคอย่างยั่งยืนด้วยแล้วก็จะนํามาซึ่งความมั่นคงทางอาหารซึ่งจะสัมพันธ์ไปกับการยุติความยากจน


                       ในการจัดการทรัพยากรป่าไม้และการจัดการพื้นที่ทับซ้อนระหว่างรัฐและชุมชนที่อยู่มาดั้งเดิมอย่าง

               ชุมชนบ้านกลางของรัฐไทย เน้นการจัดการผ่านตัวบทกฎหมาย พระราชบัญญัติและมติคณะรัฐมนตรีเป็น
               หลัก สําหรับในพื้นที่ของชุมชนบ้านกลางมีการเตรียมการในจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติถํ้าผาไทตั้งแต่ปี พ.ศ.

               2532 โดยครอบคลุมพื้นที่ 750,000 ไร่ อยู่ในเขต 5 อําเภอ 17 ตําบล ในปัจจุบันก็ยังเป็นอุทยานเตรียมการอยู่

               แม้ว่าจะผ่านมาแล้วถึง 30 ปี เนื่องจาก มีการคัดค้านด้วยประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนของชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่ลง
               หลักปักฐานอยู่มาแต่ตั้งเดิมมาเป็นข้อโต้แย้ง จึงกลายเป็นปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกันระหว่างพื้นที่เขตอุทยานที่

               กําลังเตรียมการกับพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทํากินของหลายชาติพันธุ์ จะเห็นได้ว่าในช่วงปี พ.ศ.2532 เป็นช่วง

               ที่มีการยกเลิกสัมปทานไม้และประกาศปิดป่าเนื่องจากการลดลงของพื้นที่ป่าและความเสื่อมโทรมของระบบ

               นิเวศป่าไม้เป็นอย่างมาก โดยในช่วงปี พ.ศ. 2516 -2541 เป็นช่วงที่พื้นที่ป่าไม้มีแนวโน้มลดลงมากที่สุด จ า
               ก 138,566,875 ไร่ เหลือ 81,076,250 ไร่ การลดลงของพื้นที่ป่าเท่ากับ 2,053,236.61 ไร่ต่อปี โดยในปี พ.ศ.

               2541 พื้นที่ป่าไม้เหลือเพียงร้อยละ 25 ของพื้นที่ประเทศเท่านั้น แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีการบังคับใช้

               พ.ร.บ ต่าง ๆ ในการจัดการทรัพยากรป่าไม้และที่ดิน โดยการกําหนดขอบเขตพื้นที่และวิธีการใช้ประโยชน์
               เช่น พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2507  พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2504  แต่ในขณะเดียวกันใน

               ช่วงเวลานั้นก็ดําเนินนโยบายการให้สัมปทานป่าควบคู่ไปด้วย เป็นเหตุให้ป่าไม้ลดลงเป็นอย่างมาก


                       ตัวชี้วัดหลักในการดําเนินการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของภาครัฐที่ผ่านมาคือจํานวนพื้นที่ป่า ทั้งที่

               กําหนดในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทุกฉบับ การกําหนดในแผนแม่บทการพิทักษ์ทรัพยากร

               ป่าไม้ เป็นต้น โดยในปัจจุบันรัฐมีเป้าหมายให้เพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศไทศ การ
               ดําเนินการจึงมุ่งเน้นการเพิ่มจํานวนพื้นที่ป่าในเชิงปริมาณผนวกกับแนวคิดที่ว่าคนที่อยู่กับป่าไม่สามารถที่

               จะอนุรักษ์และดูแลป่าไม้ได้ซึ่งสะท้อนได้จากนโยบายการทวงคืนผืนป่าที่รัฐพยายามที่จะย้ายชุมชนทั้ง

               ชุมชนใหม่และชุมชนดั้งเดิมออกจากพื้นที่ป่าทั้งหมดด้วยข้อพิสูจน์สิทธิ์ทํากินตามกฎหมายเท่านั้น มิได้
               พิจารณาถึงสิทธิดั้งเดิมตามจารีตประเพณีหรือหลักฐานอื่นใดที่ปรากฎ นํามาซึ่งความขัดแย้งในการใช้

               ประโยชน์จากระบบนิเวศป่าระหว่างรัฐและชุมชนรวมทั้งชุมชนบ้านกลางด้วย โดยในช่วงแรกรัฐต้องการ

               ย้ายชุมชนออกไปตั้งถิ่นฐานในที่แห่งใหม่ที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ แต่ชุมชนเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่มีศักยภาพใน

               การผลิตเพื่อการดํารงชีพได้ อีกทั้งชุมชนมีทักษะเฉพาะในการทํากินที่สัมพันธ์กับลักษณะภูมิศาสตร์และ
               ระบบนิเวศเดิม จึงพยายามเคลื่อนไวต่อสู้ในการอยู่อาศัยในพื้นที่เดิม ด้วยการประณีประนอมจากหน่วยงาน

               รัฐและอุทยานเตรียมการถํ้าผาไทจึงมีการทําข้อตกลงในการใช้ประโยชน์พื้นที่และการกําหนดขอบเขตใน

               การใช้ประโยชน์ร่วมกัน





                                                            ง
   1   2   3   4   5   6   7   8   9