Page 6 -
P. 6
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สําหรับการจัดการทรัพยากรป่าไม้และระบบนิเวศการเกษตรของชุมชนบ้านกลางนั้นอยู่บนฐาน
ความคิดความเชื่อทางศาสนา และกรรมสิทธิ์ตามจารีตประเพณีและกรรมสิทธิ์ส่วนรวม (Common property)
โดยเชื่อว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของทรัพยากร ทรัพยากรป่าไม้ เป็นของพระเจ้า สมาชิกในชุมนเป็นเพียงผู้ใช้
ประโยชน์ทรัพยากรเท่านั้น มีสิทธิในการเข้าถึง เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ จัดการ กีดกันผู้ที่มิได้เป็นสมาชิกจาก
การใช้ประโยชน์ร่วมกัน มีการจัดทําโฉนดชุมชนที่เป็นมติชุมชนในการยอมรับสิทธิการใช้ประโยชน์ของ
คนในชุมชน
ในการจัดการทรัพยากรป่าไม้ก็ใช้ระบบการจัดแบ่งพื้นที่ (Zoning) และการจํากัดขอบเขตพื้นที่การ
ใช้ประโยชน์โดยชุมชนแบ่งออกเป็นพื้นที่อนุรักษ์ ป่าพิธีกรรม หมู่บ้านสัตว์ป่า และป่าใช้สอย รวมถึงการตั้ง
กติกาการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้ร่วมกัน อาทิ การกําหนดช่วงเวลาในการหาของป่าบางประเภท
การงดนําของป่าที่ใกล้จะหมดไปมาใช้ประโยชน์ ปล่อยให้ทรัพยากรได้เติบโตหมุนเวียนแทนที่ อีกทั้งภูมิ
ปัญญาท้องถิ่นในการหาของป่าก็เป็นส่วนหนึ่งในการจํากัดจํานวนสมาชิกในชุมชนในการเข้าถึง เช่น การหา
นํ้าผึ้ง ครั่ง สําหรับกิจกรรมและการดําเนินการเพื่อการอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้ของชุมชนบ้านกลางหลัก ๆ คือ
การทําแนวกันไฟ การจัดเวรยามตามจุดสําคัญต่าง ๆ การลาดตระเวนเฝ้าระวังไฟป่าและการดับไฟป่า
นอกจากจะสามารถควบคุมไฟป่าได้แล้วยังถือเป็นการช่วยสอดส่องบุคคลภายนอกที่อาจะเข้ามาบุกรุก ตัด
ไม้ในพื้นที่อีกด้วย โดยในการจัดการไฟป่านั้นเป็นการทํางานร่วมกับภาครัฐ โดยรัฐสนับสนุนงบประมาณ
และใช้ประโยชน์จากการที่ชุมชนอยู่ใกล้ชิดกับทรัพยากรมากกว่าในการตรวจตราเฝ้าระวังไฟป่า กิจกรรม
เหล่านี้นอกจากจะเป็นประโยชน์กับชุมชนเองแล้วยังยังประโยชน์ให้กับภาครัฐซึ่งมีบุคลากรไม่เพียงพอใน
การดําเนินการเองอีกด้วย
ในการจัดการระบบนิเวศเพื่อการเกษตรของชุมชนบ้านกลาง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการดิน การจัดการ
นํ้า แมลงศัตรูพืชและการจัดการเมล็ดพันธุ์ อยู่บนหลักการสําคัญ คือการปล่อยให้ระบบนิเวศตามธรรมชาติ
ได้ทําหน้าที่ของตนเอง (Ecosystem function) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านการจัดสรรพื้นที่ 3 ส่วน คือพื้นที่
สําหรับการทํานา พื้นที่สวน และพื้นที่ไร่หมุนเวียน ที่มีความลาดชันมากขึ้นเป็นลําดับ โดยการทําไร่
หมุนเวียนยังเป็นหัวใจสําคัญในการผลิตและการบริโภคของชุมชน ระบบการเกษตรของชุมชนบ้านกลาง
เป็นการเกษตรที่อาศัยนํ้าฝนเป็นหลักไม่ว่าจะเป็นการทําไร่ นา หรือสวน โดยในการทํานาจะอาศัยนํ้าจาก
เหมืองฝายด้วยบ้างเนื่องจากการทํานาใช้นํ้ามากที่สุด เป็นการนําภูมิปัญญาของท้องถิ่นซึ่งมีทั้งระบบฝายรวม
และฝายส่วนตัวมาใช้ในการบริหารจัดการนํ้าภายใต้กติกาการจัดสรรนํ้าและการใช้ประโยชน์ของชุมชน
ทั้งนี้การทําไร่หมุนเวียนเป็นการทําการเกษตรที่ใช้ระบบนิเวศบริการในการจัดการนํ้าเท่านั้น
ฉ