Page 55 -
P. 55

โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
                                          วารสารวนศาสตร 33 (1) : 47-56 (2557)                     53
                                                         ์



                 คะแนนการมีส่วนร่วมเฉลี่ย 2.48 2.25 และ 2.22 คะแนน  ป่าไม้แตกต่างกัน ในการวิเคราะห์ได้แบ่งตัวแปรอิสระ
                 ตามล�าดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ประชาชนที่  เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ไม่เกิน 3 คน 4–6 คน และ มากกว่า 6
                 มีอาชีพหลักต่างกันมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากร  คนขึ้นไป โดยมีคะแนนการมีส่วนร่วมเฉลี่ย 2.72 2.08
                 ป่าไม้แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยส�าคัญทางสถิติ (F= 2.104;   และ 2.65 คะแนนตามล�าดับ ผลการทดสอบสมมติฐาน
                 p-value = 0.123) ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้    พบว่า ประชาชนที่มีจ�านวนสมาชิกในครัวเรือนต่างกัน
                        สมมติฐานที่ 5  ประชาชนที่มีอาชีพรองต่าง  มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้แตกต่างกัน
                 กัน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้แตกต่างกัน   อย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ (F = 51.035;  p-value = 0.000)
                 ในการวิเคราะห์ได้แบ่งตัวแปรอิสระเป็น 4 กลุ่ม   ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ทั้งนี้เนื่องจากประชาชน
                 ได้แก่ ไม่มีอาชีพรอง เกษตรกรรม ค้าขาย รับจ้าง โดย  ที่มีจ�านวนสมาชิกในครัวเรือนน้อยคือ ไม่เกิน 3 คน มัก

                 มีคะแนนการมีส่วนร่วมเฉลี่ย 2.51 2.15 1.71 และ   จะไม่ค่อยมีภาระเลี้ยงดูลูกมากนัก ท�าให้มีเวลาที่เข้ามา
                 2.12 คะแนนตามล�าดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบ    มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้มากกว่าครัว
                 ว่า ประชาชนที่มีอาชีพรองต่างกันมีส่วนร่วมในการ  เรือนที่มีจ�านวนสมาชิกในครัวเรือนมาก
                 อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้แตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญ     สมมติฐานที่ 8  ประชาชนที่มีจ�านวนแรงงาน
                 ทางสถิติ (F = 30.673;  p-value = 0.000) ซึ่งเป็นไป  ในครัวเรือนต่างกัน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากร
                 ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้  ทั้งนี้เนื่องจากกลุ่มประชาชน  ป่าไม้แตกต่างกัน ในการวิเคราะห์ได้แบ่งตัวแปรอิสระ
                 ที่ไม่มีอาชีพรอง อาจมีเวลาในการเข้ามามีส่วนร่วมใน  เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ไม่เกิน 3 คน และ 4-6 คน โดยมีคะแนน

                 การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้มากกว่าประชาชนที่มีอาชีพ  การมีส่วนร่วมเฉลี่ย 2.19 และ 2.46 คะแนนตามล�าดับ
                 รอง ได้แก่ เกษตรกรรม รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ รับจ้าง  ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ประชาชนที่มีจ�านวน
                        สมมติฐานที่ 6  ประชาชนที่มีขนาดพื้นที่ถือ  แรงงานในครัวเรือนต่างกัน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์
                 ครองต่างกัน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้  ทรัพยากรป่าไม้แตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ (t
                 แตกต่างกัน ในการวิเคราะห์ได้แบ่งตัวแปรอิสระเป็น 5   = -3.276; p-value = 0.001) ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่
                 กลุ่มได้แก่ ไม่เกิน 5 ไร่ 6-10 ไร่ 11-15 ไร่ 16-20 ไร่ และ   ตั้งไว้ ทั้งนี้เนื่องจากการมีจ�านวนแรงงานในครัวเรือน
                 21 ไร่ขึ้นไป โดยมีคะแนนการมีส่วนร่วมเฉลี่ย 2.08 2.40   มาก จะมีแรงงานส่วนเกินจากการประกอบอาชีพของ
                 2.20 2.14 และ 2.54 คะแนนตามล�าดับ ผลการทดสอบ  ตนเอง ท�าให้มีเวลาที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์
                 สมมติฐานพบว่า ประชาชนที่มีขนาดพื้นที่ถือครองต่าง  ทรัพยากรป่าไม้มากขึ้น

                 กันมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้แตกต่างกัน     สมมติฐานที่ 9  ประชาชนที่มีรายได้รวมของ
                 อย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ (F = 6.584; p-value = 0.000)   ครัวเรือนต่างกัน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากร
                 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ทั้งนี้เนื่องจากประชาชน  ป่าไม้แตกต่างกัน ในการวิเคราะห์ได้แบ่งตัวแปรอิสระ
                 ที่มีขนาดพื้นที่ถือครองมาก จะมีอาชีพหลักทางการ  เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ไม่เกิน 50,000 บาท 50,001-150,000
                 เกษตรและมีความจ�าเป็นที่ต้องใช้น�้าในการเพาะปลูก  บาท 150,001-250,000 บาท และ 250,001 บาทขึ้นไป
                 พืชผลทางการเกษตร จึงให้ความส�าคัญกับการอนุรักษ์  โดยมีคะแนนการมีส่วนร่วมเฉลี่ย 2.11 2.28 2.12 และ
                 ป่าไม้เพื่อการอนุรักษ์ดินและน�้า ท�าให้มีความมุ่งมั่น  2.10 คะแนนตามล�าดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบ

                 ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้  ว่า ประชาชนที่มีรายได้รวมของครัวเรือนต่างกันมีส่วน
                 มากกว่ากลุ่มที่มีพื้นที่ถือครองน้อย         ร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้แตกต่างกันอย่างมี
                        สมมติฐานที่ 7  ประชาชนที่มีจ�านวนสมาชิก  ไม่มีนัยส�าคัญทางสถิติ (F= 2.214; p-value = 0.086) ซึ่ง
                 ในครัวเรือนต่างกัน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากร  ไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60