Page 102 -
P. 102

โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์





            บางคนพูดภาษาไทยปนภาษาอังกฤษ  และมีข้อผิดพลาดทางด้านการใช้ภาษา  สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความ

            จ�ากัดและคุณภาพของความรู้พื้นฐานทางด้านภาษาอังกฤษที่ประชากรกลุ่มตัวอย่างมี

                     ปัญหาการขาดความรู้พื้นฐานดังกล่าว  กลุ่มตัวอย่างคิดว่าส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียน

            การสอนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่มุ่งเน้นการเรียนเรื่องของศัพท์และไวยากรณ์ โดยที่ผู้เรียน
            จะจดจ�าค�าศัพท์และไวยากรณ์เพื่อน�าไปตอบค�าถามในการสอบมากกว่าเรียนรู้เพื่อการน�าไปใช้พูดสื่อสาร

            จริง เป็นผลท�าให้จ�าค�าศัพท์ไม่ได้ ใช้ไวยากรณ์ไม่ถูก ปัญหาดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากประสบการณ์
            เรียนเดิมของผู้เรียนทั้งในด้านการรับรู้ภาษา  (Receptive  Skills)  และการใช้ภาษา  (Productive  Skills)

            (Stevick  1976  :  110)  เพราะถ้าผู้เรียนเรียนภาษาอังกฤษด้วยความรู้สึกต้องเรียนเพื่อมีความรู้ส�าหรับ
            การสอบเข้าศึกษาต่อ  การเรียนด้วยเหตุผลดังกล่าวท�าให้เรียนด้วยความจ�าเป็น  ผู้เรียนไม่มีความสนใจที่

            แท้จริงในการเรียนรู้หรือฝึกปฏิบัติ ท�าให้ความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษถูกจดจ�าได้ในช่วงระยะเวลาสั้นเท่านั้น
            ดังกล่าวไว้ใน Stevick (1976: 110) “Defensive learning sees the foreign language as a vast

            set of sounds and words and rules and patterns …, Learning thus becomes a means of
            adapting to academic requirement, or to life in a foreign country but like a suit of armor

            it is a burden, to be worn a little as possible and cast off entirely (i.e. forgotten) at the
            f rst safe opportunity.” และถ้าการเรียนการสอนที่ผ่านมามีกิจกรรมที่ท�าให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการลงมือ

            ปฏิบัติจะท�าให้ผู้เรียนจดจ�าค�าศัพท์และความรู้ทางด้านไวยากรณ์ได้ดีขึ้นดังกล่าวใน Stevick (1976: 38)
            ว่า “…what is essential for memory is response by the learner”

                     ดังนั้นปัญหาที่พบจากการศึกษาครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเรียนการสอนที่ผ่านมาขาดการส่งเสริม

            ให้ผู้เรียนได้ใช้ความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษในการสื่อสารตามสภาพจริง เป็นผลท�าให้ประชากรกลุ่มตัวอย่าง
            ขาดความมั่นใจในความรู้พื้นฐานของตนเอง


                     3.  การขาดการฝึกฝนและประสบการณ์ในการพูดเพื่อการสื่อสาร

                     ผลการวิจัยจากการสังเกตพฤติกรรมการพูดภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการในห้องเรียน  และ
            จากข้อมูลการสัมภาษณ์ ผลการศึกษาพบว่าปัญหามีลักษณะเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ ไม่มีความกล้า

            และขาดความมั่นใจในการพูด  หรือจากการสังเกตพฤติกรรมการพูดภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการใน
            ห้องเรียน  ก็พบว่าในการเรียนชั่วโมงแรก  ผู้เรียนไม่สามารถพูดสื่อสารความคิดของตนเองให้กับผู้ฟังได้

            อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพูดภายใต้สถานการณ์ที่กดดันยิ่งท�าให้ผู้เรียนพูดด้วยความล�าบาก

                     การพูดภาษาอังกฤษเป็นการสื่อสารที่ต้องผสมผสานความรู้ความสามารถทางด้านภาษา  และ

            ความคิด Bygate (1991: 3) ผู้สอนเป็นผู้มีบทบาทส�าคัญในการที่จะท�าให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงใน




           94   วารสารมนุษยศาสตร์  ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2554
   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107