Page 131 -
P. 131

โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


                                                           120

               high along the wetland size moreover, larger wetland trended to have species composition covered most
               of bird species in the small wetland. Therefore, wetland size should be included to be considered in
               management planning for conservation of bird diversity in the wetland in the future.

               Keywords: bird, species diversity, species composition, wetland size

                     ความหลากชนิด (species diversity) เป็นคุณลักษณะหนึ่งของสังคมชีวิตที่มีความส้าคัญมาก เนื่องจาก
               สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีหน้าที่ในระบบนิเวศที่แตกต่างกัน ระบบนิเวศที่มีความหลากชนิดสูงจึงเป็นระบบนิเวศที่มีสิ่งมีชีวิต
               หลากหลายชนิดท้าหน้าที่ที่แตกต่างกันไปเป็นจ้านวนมาก ดังนั้นการที่ระบบนิเวศใดมีความหลากชนิดที่สูงกว่า จึงอาจ

               หมายถึงการมีระบบนิเวศที่มีความยั่งยืนกว่า เนื่องจากมีสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดสามารถท้าหน้าที่ในระบบนิเวศ
               ทดแทนกันได้ ข้อมูลพื้นฐานด้านความหลากชนิดในแต่ละพื้นที่ จึงเป็นข้อมูลที่ส้าคัญส้าหรับการบริหารจัดการพื้นที่
               ธรรมชาติให้คงความสามารถในการบริการทางนิเวศให้คงอยู่ได้อย่างยั่งยืน (Townsend, 2008)
                     ระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้้าเป็นระบบนิเวศที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีความส้าคัญต่อการด้ารงชีวิตของสิ่งมีชีวิตซึ่ง
               รวมถึงมนุษย์และมีบทบาทส้าคัญในการท้าหน้าที่ในการป้องกันการเกิดน้้าท่วม กักเก็บน้้าใต้ดิน บ้าบัดน้้าและตะกอนที่
               มีการปนเปื้อนทั้งที่เกิดจากธรรมชาติและจากมนุษย์ (Gunsch, 2008) อีกทั้งยังเป็นระบบนิเวศบกที่มีผลผลิตต่อหน่วย
               พื้นที่สูงที่สุด จึงส่งผลให้มีสัตว์ชนิดต่างๆ มาใช้ประโยชน์พื้นที่ชุ่มน้้าเป็นจ้านวนมาก (Smith & Smith, 2006) ซึ่งนก
               ถือเป็นสัตว์อีกกลุ่มหนึ่งที่พบมีการเข้าใช้ประโยชน์มากในพื้นที่ชุ่มน้้า โดยพื้นที่ชุ่มน้้าเป็นทั้งที่อยู่อาศัย แหล่งน้้า  แหล่ง

               หาอาหาร พื้นที่หลบภัยและพื้นที่ส้าหรับการท้ากิจกรรมพิเศษของนก
                     ปัจจัยด้านขนาดพื้นที่ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีรายงานว่ามีผลต่อความหลากชนิดทั้งของนกและสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ
               (MacArthur & Wilson, 1967) ส้าหรับในประเทศไทยปัจจัยที่ส้าคัญที่ส่งผลต่อความหลากหลายของนกนั้นมีทั้งเกิด
               จากธรรมชาติและเกิดจากการกระท้าของมนุษย์ โดยเฉพาะในปัจจุบันจากปัญหาการสูญเสียถิ่นอาศัยอาทิ การ
               เปลี่ยนแปลงของขนาดพื้นที่ป่าหรือพื้นที่ธรรมชาติที่อดีตเคยเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ต่อเนื่องเป็นผืนเดียวกันกลับกลายเป็น
               ผืนป่าที่มีการแตกกระจายเกิดเป็นหย่อมป่าที่มีขนาดใหญ่บ้าง เล็กบ้าง กระจายตัวอยู่ท่ามกลางสภาพพื้นที่โดยรอบที่มี
               การพัฒนาจากกิจกรรมของมนุษย์ ผลจากการเปลี่ยนแปลงมีผลต่อรูปแบบของภูมิทัศน์ของระบบนิเวศโดยรวม
               (Suksawang & Temchai, 2014) ซึ่งจากการวิจัยของ Fashing (2003) ที่ชี้ให้เห็นว่าการแตกกระจายถิ่นอาศัยและ
               การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่มีผลกระทบให้เกิดการลดลงของความหลากชนิดของสิ่งมีชีวิต และส้าหรับใน

               ประเทศไทย Chaiyes et. al. (2009) ได้ศึกษาความสัมพันธ์ของขนาดของพื้นที่หย่อมป่ากับความสามารถในการ
               รองรับความหลากชนิดของนก โดยพบว่าขนาดของหย่อมป่าขนาดใหญ่สามารถรักษาความหลากชนิดของสังคมนกได้
               ดีกว่าหย่อมป่าที่มีขนาดเล็ก ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นว่าปัจจัยทางด้านขนาดของพื้นที่ที่มีความแตกต่างกันนั้นมีผลต่อความ
               หลากชนิดของสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะความหลากชนิดของนกในพื้นที่นั้นด้วย อย่างไรก็ตามพื้นที่ชุ่มน้้าซึ่งแม้จะมีการ
               รบกวนโดยมนุษย์อยู่บ้างแต่ก็ยังเป็นถิ่นอาศัยลักษณะหนึ่งที่มีนกเข้าไปใช้ประโยชน์เป็นจ้านวนมากยังขาดการศึกษาถึง
               ผลของขนาดของพื้นที่ชุ่มน้้าที่มีผลต่อความหลากชนิดของนก จึงเป็นที่น่าสนใจว่าขนาดของพื้นที่ชุ่มน้้าจะส่งผลต่อ
               ความหลากชนิดของนกในพื้นที่เหมือนที่เกิดขึ้นกับนกที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หย่อมป่าหรือไม่ การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์
               เพื่อเปรียบเทียบความหลากชนิดและองค์ประกอบของชนิดนกในพื้นที่ชุ่มน้้า 3 แห่งที่มีขนาดแตกต่างกัน ซึ่งคาดว่า

               น่าจะแสดงให้เห็นถึงผลของขนาดของพื้นที่ชุ่มน้้าที่มีต่อความหลากชนิดของนกได้ ซึ่งข้อมูลที่ได้จะเป็นข้อมูลเบื้องต้น
               ซึ่งถ้ามีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมจนสามารถสรุปผลการศึกษาเป็นวงกว้างแล้ว ข้อมูลเหล่านี้จะสามารถน้าไปก้าหนดแนว
               ทางการใช้ประโยชน์หรือการจัดการพื้นที่เพื่อการจัดการและการอนุรักษ์ความหลากชนิดของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ชุ่มน้้าได้
               อย่างเหมาะสมต่อไป
                     การศึกษาในครั้งนี้มีพื้นที่ศึกษาเป็นพื้นที่ชุ่มน้้าจ้านวน 3 แห่ง ซึ่งมีขนาดแตกต่างกัน โดยเรียงล้าดับจากพื้นที่ชุ่ม
               น้้าที่มีขนาดใหญ่ไปหาเล็กได้ดังนี้ 1) หนองกอมเกาะ (ภาพที่ 1) 2)  หนองสางนกแซว (ภาพที่ 2) และ 3) หนองกวก
               (ภาพที่ 3) โดยพื้นที่ชุ่มน้้าทั้ง 3 แห่ง ตั้งอยู่ในอ้าเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ด้าเนินการส้ารวจนกที่ปรากฏในพื้นที่ด้วย





               วารสารสัตว์ป่าเมืองไทย ปีที่ 24 พ.ศ. 2560                  Journal of Wildlife in Thailand Vol. 24, 2017
   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136