Page 132 -
P. 132
โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
121
วิธี point count ตามวิธีส้ารวจของ Bibby et al. (1992) ซึ่งเป็นวิธีในการส้ารวจโดยการก้าหนดจุดที่แน่นอน โดย
การเลือกจุดในการส้ารวจ 5 จุดในให้ครอบคลุมพื้นที่ชุ่มน้้าแต่ละแห่ง (ภาพที่ 4) ดังนั้นในการศึกษานี้จึงมีจุดส้ารวจ
ทั้งหมด 15 จุดส้ารวจ ผู้วิจัยด้าเนินการส้ารวจนกในแต่ละจุดส้ารวจอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง โดยการส้ารวจนกในแต่
ละจุดจะด้าเนินการส้ารวจโดยใช้เวลาจุดละ 10 นาที และท้าการส้ารวจระหว่างเวลา 6:00 - 11:00 น. และส้ารวจ
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 โดยผู้วิจัยได้ท้าการบันทึกชนิดนกและจ้านวนตัวของ
นกที่เข้าใช้ประโยชน์ภายในพื้นบริเวณจุดส้ารวจแต่ละจุด ซึ่งได้ด้าเนินการจ้าแนกชนิดนกที่พบโดยการเปรียบเทียบกับ
คู่มือศึกษาธรรมชาติหมอบุญส่ง เลขะกุล นกเมืองไทย (Nabhitabhata et. al., 2012) ค้านวณขนาดของพื้นที่ชุ่มน้้า
และลักษณะของการใช้ที่ดินในกลุ่มพื้นที่เกษตรกรรมบริเวณโดยรอบพื้นที่ชุ่มน้้า โดยข้อมูลที่ใช้ส้าหรับการค้านวณ
ขนาดของพื้นที่ชุ่มน้้าและลักษณะของการใช้ที่ดินในกลุ่มพื้นที่เกษตรกรรมบริเวณโดยรอบพื้นที่ชุ่มน้้าได้จากภาพถ่าย
ดาวเทียมจากโปรแกรม Google Earth 7.1.8.3036 ซึ่งเป็นภาพถ่ายดาวเทียมของวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ส่วนการ
ค้านวณขนาดของพื้นที่ชุ่มน้้าได้ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อเป็นการก้าหนดขอบเขต จากนั้นท้าการค้านวณหาขนาดของ
พื้นที่ชุ่มน้้าแต่ละแห่งโดยใช้โดยใช้โปรแกรม QGIS 2.14.6 (Quantum GIS Development Team, 2017)
เนื่องจากจุดที่ใช้ในการส้ารวจนกในการศึกษานี้ส่วนใหญ่ตั้งอยู่โดยรอบพื้นที่ชุ่มน้้า ผู้วิจัยจึงได้ด้าเนินการศึกษา
ลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยรอบพื้นที่ชุ่มน้้า เนื่องจากลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่โดยรอบพื้นที่ชุ่มน้้าอาจส่งผล
ต่อข้อมูลด้านความหลากชนิดและองค์ประกอบของชนิดนกได้ โดยการประเมินลักษณะของการใช้ที่ดินในกลุ่มพื้นที่
เกษตรกรรมบริเวณโดยรอบพื้นที่ชุ่มน้้าได้ใช้ลักษณะที่ปรากฏบนภาพถ่ายดาวเทียมในการจ้าแนกลักษณะของพื้นที่โดย
แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ 1) พื้นที่ทุ่งนา 2) พื้นที่ท้าประมง (บ่อเลี้ยงปลา) 3) พื้นที่อื่นๆ โดยได้ท้าการจ้าแนก
ลักษณะของบริเวณโดยรอบพื้นที่ชุ่มน้้าภายในระยะ 500 เมตร จากขอบของพื้นที่ชุ่มน้้า ได้ท้าการจ้าแนกลักษณะพื้นที่
จากนั้นท้าการค้านวณหาขนาดของพื้นที่ในแต่ละลักษณะโดยใช้โปรแกรม QGIS 2.14.6 (Quantum GIS
Development Team, 2017)
การศึกษาในครั้งนี้ได้ใช้ข้อมูลจ้านวนชนิดและจ้านวนตัวของนกในแต่ละชนิดเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์
เปรียบเทียบความหลากชนิดและองค์ประกอบของชนิดนกระหว่างพื้นที่ชุ่มน้้าทั้ง 3 แห่ง
การศึกษาครั้งนี้ได้ค้านวณค่าเฉลี่ยของดัชนีความหลากชนิดของ Shannon และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)
ของดัชนี โดยใช้โปรแกรม EstimateS 9.1 (Colwell, 2013) จากนั้นน้าค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานไปค้านวณหาช่วง
ความเชื่อมั่นที่ 95% เพื่อน้าไปใช้ในการหาความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติของดัชนีความหลากชนิดของนก
ระหว่างพื้นที่ชุ่มน้้าแต่ละแห่ง และด้าเนินการวิเคราะห์ความคล้ายคลึงด้านองค์ประกอบของชนิดนกระหว่างพื้นที่ชุ่ม
น้้าโดยใช้ค่าดัชนีความคล้ายคลึงของ Sorensen ที่ค้านวณโดยใช้โปรแกรม EstimateS 9.1 (Colwell, 2013)
จากการค้านวณขนาดของพื้นที่ชุ่มน้้าพบว่า พื้นที่ชุ่มน้้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในการส้ารวจครั้งนี้คือ พื้นที่ชุ่มน้้า
หนองกอมเกาะ รองลงมาคือ พื้นที่ชุ่มน้้าหนองสางนกแซว และขนาดเล็กที่สุดคือ พื้นที่ชุ่มน้้าหนองกวก (ตารางที่ 1)
จากผลการค้านวณลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินของพื้นที่รอบหนองพบว่าการใช้ประโยชน์ที่ดินของพื้นที่รอบหนอง
สางนกแซวมีความแตกต่างจากของพื้นที่ชุ่มน้้าอีก 2 แห่ง คือ การใช้ประโยชน์ที่ดินของพื้นที่รอบหนองสางนกแซวมี
การท้าการประมง (บ่อเลี้ยงปลา) ในสัดส่วนที่สูงกว่าพื้นที่นาข้าว ในขณะที่การใช้ประโยชน์ที่ดินของพื้นที่รอบหนอง
กอมเกาะและหนองกวกจะมีสัดส่วนของการท้านาที่สูงกว่าการท้าประมง (ตารางที่ 2)
จากการส้ารวจพบนกทั้งหมด 53 ชนิด โดยเป็นนกที่พบในหนองกอมเกาะจ้านวน 31 ชนิด พบในหนองสางนก
แซว 34 ชนิด และหนองกวก 33 ชนิด (ตารางที่ 3) โดยมีนกชนิดเด่นในแต่ละหนองดังนี้ นกยางควาย และนกแซงแซว
หางปลาเป็นนกชนิดเด่นในพื้นที่หนองกอมเกาะ นกยางกรอกพันธุ์จีน นกอีโก้ง และนกยอดหญ้าสีด้าเป็นนกชนิดเด่น
ในพื้นที่หนองสางนกแซว โดยนกยางเปีย และนกแซงแซวหางปลาเป็นนกชนิดเด่นในพื้นที่หนองกวก โดยรายชื่อของ
นกทุกชนิดที่พบในแต่ละพื้นที่ชุ่มน้้าได้แสดงไว้ในตารางภาคผนวกที่ 1
วารสารสัตว์ป่าเมืองไทย ปีที่ 24 พ.ศ. 2560 Journal of Wildlife in Thailand Vol. 24, 2017