Page 29 -
P. 29
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บทที่ 3
โครงสร้างของตลาดซื้อขายยางพาราล่วงหน้า
การศึกษาในส่วนนี้คณะผู้วิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อท าความเข้าใจต่อโครงสร้างตลาดซื้อขายยางพารา
ล่วงหน้าของไทยในปัจจุบัน โดยเริ่มจากการศึกษาความเป็นมาของตลาดซื้อขายยางพาราล่วงหน้า ในหัวข้อ
3.1 และ 3.2 โครงสร้างการใช้ตลาดซื้อขายยางพาราล่วงหน้าในปัจจุบัน ซึ่งจะได้กล่าวถึงผู้ที่เกี่ยวข้องใน
ตลาดฯ รวมถึงพัฒนาการที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะผลักดันให้การซื้อขายยางพาราล่วงหน้าของไทยมีสภาพคล่อง
และสามารถใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่อาจจะท าให้
การซื้อขายในตลาดฯ ไม่ประสบความส าเร็จตามที่คาดไว้ ข้อมูลในส่วนนี้คณะผู้วิจัยได้รวบรวมจากแหล่งข้อมูล
สาธารณะต่างๆ และข้อมูลจากการสัมภาษณ์ตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
3.1 ความเป็นมาของตลาดซื้อขายยางพาราล่วงหน้าในประเทศไทย
การซื้อขายยางพาราล่วงหน้าในประเทศไทยได้เริ่มมีการซื้อขายเป็นครั้งแรกภายใต้ตลาดสินค้าเกษตร
ล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (The Agricultural Futures Exchange of Thailand หรือ AFET) ซึ่งเป็นตลาด
สินค้าเกษตรล่วงหน้าที่ถูกจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าปี พ.ศ. 2542 โดยมี
คณะกรรมการก ากับการซื้อขาย สินค้าเกษตรล่วงหน้า (คณะกรรมการ ก.ส.ล.) เป็นผู้ก ากับดูแลการซื้อขาย
สินค้าเกษตรล่วงหน้า โดยให้รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานกรรมการ และปลัดกระทรวงการคลัง
ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิ
เป็นกรรมการ
การซื้อขายยางพาราล่วงหน้าในตลาด AFET เริ่มมีการซื้อขายจริงในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2547 โดย
มีสินทรัพย์อ้างอิงคือยางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) โดยขนาดของการซื้อขายต่อสัญญาเท่ากับ 5,000 กิโลกรัม
และกรณีที่ต้องการส่งมอบจริงจะต้องมีปริมาณการซื้อขายเท่ากับ 20,000 กิโลกรัม หรือ 20 เมตริกตันต่อหนึ่ง
หน่วยของการส่งมอบ รายละเอียดของสัญญาซื้อขายยางพาราล่วงหน้าในตลาด AFET แสดงในตารางเอกสาร
แนบ 1 ด้านล่างนี้
การซื้อขายยางพาราล่วงหน้าของไทยในตลาด AFET เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดต่างประเทศที่ส าคัญๆ
เช่น Tokyo Commodity Exchange (TOCOM) แล้วพบว่าปริมาณการซื้อขายยางพาราล่วงหน้าของไทยมี
ปริมาณที่น้อยกว่าต่างประเทศค่อนข้างมาก จากการศึกษาของ ธิษณา ตันติวณิชชานนท์ (2554) พบว่าปริมาณ
การซื้อขายในปี พ.ศ. 2554 มีปริมาณเท่ากับ 644,430 ตันในตลาด AFET ขณะที่ในตลาด TOCOM เท่ากับ
13.92 ล้านตัน
16