Page 367 -
P. 367

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว






                                                                          -
                     โดยปรกติน�้าทะเล (มี NaCl ประมาณ 4 %) เป็นแหล่งของ Cl ในบรรยากาศ จึงมีคลอไรด์
            ติดมากับน�้าฝนในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของพืชทั่วไป (0.4-0.8 กก.Cl/ไร่) แต่ในพื้นที่บริเวณ

            ชายฝั่งทะเลจะมี Cl ลงมากับน�้าฝนในปริมาณที่มากกว่านี้
                             -

            2. บทบาทของคลอรีน

                     เมื่อกล่าวถึงบทบาทของธาตุอาหารนี้ในพืช จะเรียกว่าบทบาทของธาตุคลอรีน ส�าหรับคลอรีน
            มีบทบาทในด้านสรีระและการเติบโตของพืช เนื่องจากเป็นองค์ประกอบในสารอินทรีย์บางชนิด เกี่ยวข้อง

            กับกระบวนการสังเคราะห์แสง ควบคุมการเคลื่อนที่ของน�้าเข้า-ออกจากเซลล์ กระตุ้นกิจกรรมของเอนไซม์
            และลดความรุนแรงของโรคพืชบางชนิด (ยงยุทธ, 2558) ซึ่งสรุปได้ดังนี้
                     1) องค์ประกอบในสารอินทรีย์บางชนิด แม้ว่าพืชจะมีสารอินทรีย์ที่มีคลอไรด์เป็นองค์ประกอบ

            มากกว่า 100 ชนิด แต่มีเพียง 1 ชนิดเท่านั้นที่แสดงกิจกรรมทางสรีระอย่างชัดเจน คือ 4-chloroindole
            acetic acid ซึ่งออกฤทธิ์ด้านฮอร์โมนพืชแบบออกซิน

                     2) บทบาทในกระบวนการสังเคราะห์แสง คลอรีนมีบทบาทในการสังเคราะห์แสง 2 ขั้นตอน
            คือ ท�าหน้าที่ในปฏิกิริยาแสง (light reaction) และควบคุมการเปิดปากใบ ส�าหรับหน้าที่แรกนั้น ท�างาน
                                                                                    +
            ร่วมกับแมงกานีส (Mn) ในขั้นตอนการแยกสลายน�้าให้ได้อิเล็กตรอน (e) โปรตอน (H ) และออกซิเจน
                                                                        -
            (ดูรายละเอียดในเรื่องแมงกานีส)  ช่วยให้ระบบการเคลื่อนย้ายอิเล็กตรอนที่เกี่ยวเนื่องกับปฏิกิริยาแสงมี
            ความสมบูรณ์ ส�าหรับบทบาทในการเปิดปากใบมีรายละเอียดในเรื่องโพแทสเซียม

                     3) ควบคุมการเคลื่อนที่ของน�้าเข้า-ออกจากเซลล์  เนื่องจากคลอไรด์ไอออนเคลื่อนที่ผ่านเยื่อ
            ต่างๆ  ของเซลล์ได้เร็ว  ไม่ท�าปฏิกิริยาทางชีวเคมีโดยง่าย  และอยู่ในเซลล์ได้ค่อนข้างมากโดยไม่เป็นพิษ
            คลอไรด์จึงเป็นตัวละลายหลักชนิดหนึ่งของเซลล์พืช  ซึ่งท�าหน้าที่ควบคุมให้น�้าเคลื่อนที่เข้าไปในเซลล์

            เพื่อรักษาความเต่งของเซลล์ไว้ เมื่อเซลล์เข้าสู่ขั้นตอนการยืดตัวก็จะสะสมโพแทสเซียมและคลอไรด์ให้สูง
            เพื่อดึงน�้าเข้ามามากขึ้น  ขณะเดียวกันเมื่อพืชได้รับแสง  เซลล์คุมทั้งคู่จะสะสมสองธาตุนี้เช่นเดียวกัน

            เพื่อให้เซลล์คุมเต่งและปากใบเปิด  เป็นช่องทางให้คาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปร่วมในขั้นตอนการสังเคราะห์
            น�้าตาล
                     4) กระตุ้นกิจกรรมของเอนไซม์  ส�าหรับเอนไซม์ที่กระตุ้นกิจกรรมโดยคลอไรด์มีหลายชนิด

            ที่ส�าคัญคือเอนไซม์ที่ควบคุมกิจกรรมการดูดไอออนของเยื่อภายในเซลล์  และเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการ
            สังเคราะห์กรดอะมิโนบางชนิด

                     5) ลดความรุนแรงของโรคพืชบางโรค  บทบาทนี้ของคลอไรด์ถูกค้นพบ  เมื่อมีการประเมิน
            สภาพการเกิดโรคพืชบางโรคจากแปลงทดลองปุ๋ย เนื่องจากการใช้ปุ๋ยคลอไรด์ เช่น โพแทสเซียมคลอไรด์
            หรือแอมโมเนียมคลอไรด์  ช่วยให้พืชเป็นโรคบางชนิดน้อยกว่าการใช้ในรูปเกลือซัลเฟต  ซึ่งเกิดขึ้นจาก  2

            สาเหตุคือ คลอไรด์ลดความรุนแรงของโรค หรือคลอไรด์ท�าให้พืชต้านทานต่อโรคได้ดีชึ้น ส�าหรับข้าวนั้น




                    ดิน ธาตุอาหารและปุ๋ยข้าว                             จุลธาตุของข้าว (ส่วนที่ 2)  363
   362   363   364   365   366   367   368   369   370   371   372